"ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป" อีกกระแสหนึ่งที่ผมได้รับฟังมาจาก พระอาจารย์นอง โดยตรง ก็คือ...สมัยที่ พระอาจารย์นอง ยังอยู่ที่กุฏิหลังเก่า มี "นางไม้" ตนหนึ่งคือ "แม่นางจันทร์" มายืนร้องไห้ อยู่หน้ากุฏิ บอกว่าจะให้ พระอาจารย์นอง ออกไปพบ เพื่อมอบตำราการสร้าง "ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป" ตอนแรก พระอาจารย์นอง ไม่ยอมออกไป เพราะเป็นเวลาวิกาลและการพบกับผู้หญิง ไม่เป็นการสมควร แต่ "นางไม้" ได้อ้อนวอน อยู่หลายครั้งโดยบอกว่า อยากจะมอบตำรานี้ให้ เพื่อจะได้มีส่วนสร้าง วัดทรายขาว ด้วย หากไม่ได้ ถ่ายทอด วิชานี้ให้กับ พระอาจารย์นอง ซึ่งตนเห็นว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ตนเองก็จะไปจุติใหม่ไม่ได้ และว่าตน เป็นเทพ อีกภพหนึ่ง ไม่ใช่มนุษย์ การที่ พระอาจารย์นอง ออกไปพบจึงไม่มีอะไรเสียหาย ในที่สุด พระอาจารย์นอง จึงได้ออกไปพบ และได้มีการถ่ายทอดตำราวิชาการสร้าง "ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป" และคาถาอาคมกำกับให้ พระอาจารย์นอง โดย "ห้ามมีการจด" แต่ให้จำเพียงอย่างเดียว พระอาจารย์นอง ก็จำได้หมดสิ้น ก่อนจะจากหายไป "แม่นางจันทร์" ได้บอกว่า ตำรานี้ ห้ามถ่ายทอด ให้คนอื่น อย่างเด็ดขาด ถ้าหาก พระอาจารย์นอง ละสังขารไปเมื่อใด ก็ให้หาย สาบสูญ ไปด้วยเลย... ด้วยเหตุนี้ พระอาจารย์นอง จึงไม่ได้ถ่ายทอด วิชานี้ให้กับใคร...สำหรับ "ของดี" ที่บรรจุ อยู่ใน "ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป" นี้เป็นเปลือก ของต้นไม้ ศักดิ์สิทธิ์ อย่างหนึ่ง ที่มีความ เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด ซึ่งมีอยู่บนยอดเขาเหนือวัดทรายขาว และ พระอาจารย์นอง ก็ไม่เคย บอกใครเลยว่า เป็นต้นไม้อะไร ?
สำหรับ "ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป" ได้สร้างชื่อเสียงให้กับ พระอาจารย์นอง มาก เพราะมีผู้นำ ไปใช้แล้ว มีประสบการณ์ ทางด้านแคล้วคลาดปลอดภัยมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีเมตตามหานิยมเป็นเยี่ยม ใครมีติดตัวไว้ จะเป็น ที่รักใคร่ ของคนทั่วไป ผมได้เคยรับแจก "ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป" จาก พระอาจารย์นอง บ่อยๆ บางครั้ง เมื่อมีผู้ใด มาขอต่อก็ได้มอบให้ไป เพราะถือว่ากลับไปขอใหม่ได้ จนทุกวันนี้เหลืออยู่เพียง ๒-๓ ดอกเท่านั้น ก็คงต้อง เก็บไว้ใช้ ส่วนตัวเพราะไม่มีโอกาสจะหาได้อีกแล้ว ทราบว่าในวงการพระเครื่องปัจจุบันเช่าหากันถึงดอกละ ๒ พันบาท ขึ้นไป
เมื่อ พระอาจารย์นอง ได้ละสังขารจากไปแล้ว มีผู้สงสัยใคร่รู้กันว่า ใครจะเป็นผู้สืบทอด พุทธาคม ในสายนี้...? โดยเฉพาะ ตำราการปลุกพระเครื่อง หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ซึ่งแม้ที่อื่นจะทำได้ ก็ไม่เหมือน สายตรง จากวัดช้างให้ ในเบื้องต้น พระอาจารย์นอง ได้ตั้งใจที่จะมอบวิชาอาคมให้กับ พระครูสังฆรักษ์สายันต์ จนฺทสโร เจ้าอาวาส วัดช้างให้รูปปัจจุบันแต่ พระครูสังฆรักษ์สายันต์ ได้ปฏิเสธ ดังนั้น พระอาจารย์นอง จึงได้ถ่ายทอด วิชาอาคม ให้กับลูกศิษย์อีกรูปหนึ่ง คือ พระครูอาทรศุภการ (พระอาจารย์พล อาสโภ) เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ รูปปัจจุบัน โดยเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๓๙ ตรงกับวันแรม ๑ คํ่า เดือน ๖ เวลา ๐๙.๐๐ น.พระอาจารย์นอง ได้เรียก พระอาจารย์พล ไปพบที่วัดทรายขาว เพื่อประกอบ พิธีครอบครู และ ถ่ายทอดคาถา ปลุกเสก พระหลวง พ่อทวดวัดช้างให้ และเวทมนต์คาถาต่างๆ ให้กับพระอาจารย์พลจนหมดสิ้น (ยกเว้นตำรา การสร้างและปลุกเสก "ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป") คาถานารายณ์แปลงรูป
การถ่ายทอดวิชาคาถา ให้นั้น เป็นการมอบแบบวิธีโบราณกาล คือโดยวิธีมุขบาฐ คือการบอกกันปากต่อปาก โดยใน เบื้องแรกสุดนั้น พระอาจารย์นอง ได้ท่องคาถาให้ พระอาจารย์พล ฟังก่อน แล้วให้จดตามเอาเอง เมื่อจดเสร็จแล้ว พระอาจารย์พล ก็อ่านให้ พระอาจารย์นอง ฟัง เมื่อ พระอาจารย์นอง ฟังแล้วเห็นว่าถูกต้อง พระอาจารย์นอง ก็ได้ส่งมอบคาถาให้กับ พระอาจารย์พล อย่างเป็นทางการ พร้อมกับสั่ง กำชับให้นำคาถาเหล่านี้ ไปใช้เพื่อเป็น การช่วยเหลือ เกื้อกูลแก่ชาวบ้านเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม จึงนับได้ว่า การมอบคาภาปลุกเสก พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ในครั้งนี้เป็นการถ่ายทอดพุทธาคมจาก พระอาจารย์นอง ถึง พระอาจารย์ผล อย่างเป็นทางการ
ผมได้มีโอกาสไปกราบไหว้ พระอาจารย์พล วัดนาประดู่ มาหลายครั้งแล้ว ก็ประทับใจในความเป็น "พระแท้" ของพระอาจารย์พลมาก นับเป็น พระอาจารย์ ผู้มีปฏิปทาน่าเคารพศรัทธาเลื่อมใสอย่างแท้จริงอีกรูปหนึ่ง ท่านมีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ สมถะ สันโดษ ไม่สะสมสมบัติพัสถานใดๆ มีความเมตตาเอื้ออาทรต่อชาวบ้านเหมือนกับ พระอาจารย์นอง ทุกอย่าง จึงนับได้ว่า พระอาจารย์นอง ท่านมองคนไม่ผิด ทุกวันนี้ ใครไปกราบไหว้ พระอาจารย์พล ที่วัดนาประดู่ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า "นี่คือ เพชรแท้แห่งเมืองใต้"
กล่าวสำหรับ พระอาจารย์นอง ที่ผมเคยได้กราบไหว้มาหลายสิบปี มีความประทับใจท่านหลายอย่าง สมัยก่อนโน้น บ้านเมืองยังไม่เจริญมากนัก มีลูกศิษย์จากในตัวเมืองปัตตานีบ้าง ยะลาบ้าง หาดใหญ่บ้าง เอาพัดลม ตู้เย็น และเครื่องใช้ ไฟฟ้าต่างๆ ไปถวายท่านเป็นประจำ ท่านปฏิเสธที่จะรับ โดยบอกว่า...เมื่อเช้านี้ชาวบ้านที่เขาตักให้ท่าน ยังไม่มี ของเหล่านี้ใช้กันเลย ท่านเป็นพระ ต้องอาศัยข้าวของชาวบ้านขบฉัน จะใช้ชีวิตที่ดีกว่าชาวบ้าน ซึ่งยังลำบากยากจนอีกมากมาย ได้อย่างไร
ผู้ชมทั้งหมด | 1,116,133 ครั้ง |
เปิดร้าน | 21 พ.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |