เหรียญว่าวจุฬา เนื้อตะกั่ว หลวงปู่นิ่ม วัดพุทธมงคล 

หลวงปู่นิ่ม วัดพุทธมงคล สุพรรณบุรี... ยอดพระเกจิเมืองขุนแผน อายุ ๘๔ ปี พรรษา ๖๔

• ศิษย์ทายาทพุทธคุณ สายดิ่งตรงองค์สมเด็จโต พรหมรังสี ที่ยังอยู่
• ศิษย์สาย หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ที่ยังมีชีวิต
• ศิษย์สายตรงหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ที่ทรงพลัง
• ศิษย์สายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่ทรงอภิญญา
•  

หลวงปู่นิ่มเต็มอิ่มด้วยพุทธคุณ สูงล้นด้วยพลังจิต ใจใหญ่ยิ่งกว่าแม่น้ำ พุทธคุณสูงส่ง ดังกงจักรปักใจ พระแท้เมืองสุพรรณที่ คนสุพรรณกราบแล้วกราบอีก บอกว่า "อ้อของจริงอยู่ในเมือง นี่เอง"

เหรียญว่าวจุฬาหลวงปู่นิ่ม วัดพุทธมงคล สุพรรณบุรี

หลวงปู่นิ่ม วัดพุทธมงคล จ.สุพรรณบุรี
ยอดพระเกจิเมืองขุนแผน อายุ ๘๔ ปีพรรษา ๖๔
ศิษย์สายทายาทพุทธคุณ สายดิ่งตรงองค์สมเด็จโต พฺรหฺมรังสี ที่ยังอยู่ ศิษย์สาย หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ที่ยังมีีวิต
ศิษย์สายหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ที่ทรงพลัง ศิษย์สายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่ทรงอภิญญา
จัดสร้างวัตถุมงคล 2 รายการคือ
เหรียญว่าวจุฬา(แช่น้ำชา) สร้าง 3 เนื้อ
นวะโลหะแก่เงิน สร้าง 333 เหรียญ
เนื้อตะกั่ว สร้าง 1,333 เหรียญ
เนื้อทองแดงรมดำ สร้าง 3,333 เหรียญ

"พระครูสุนันทโชติ" หรือ "หลวงปู่นิ่ม โชติธัมโม" ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงปู่ในเมืองสุพรรณ" พระเกจิชื่อดังแห่งวัดพุทธมงคล (หนองปรือ) หมู่ที่ 7 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ปัจจุบันสิริอายุ 84 ปี พรรษา 64
อัตตโนประวัติ เกิดที่สุพรรณฯ เป็นชาว สุพรรณฯ ด้วยกิริยามารยาทของท่านที่เรียบร้อยมาตั้งแต่เด็ก โยมมารดาจึงตั้งชื่อให้ว่า นิ่ม
เมื่อเรียนจบประถมศึกษาปีที่ 5 แล้ว (สมัยก่อนถือว่าสูงมากเพราะคนส่วนใหญ่เรียนกันแค่ ป.4 เป็นครูประชาบาลได้แล้ว) ท่านได้ช่วยทางบ้านประกอบกิจการระยะหนึ่ง แต่ด้วยความมีจิตใจเข้าหาทางพระพุทธศาสนา จึงขออนุญาตบิดา-มารดาอุปสมบท มี พระสมณกิจพิศาล (หลวงปู่เปลื้อง วัดสุวรรณภูมิ) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปริยัติคุณาภรณ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาสุจินต์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา โชติธัมโม
หลวงปู่นิ่ม ท่านเป็นศิษย์ พระเทพวุฒาจารย์ (หลวงปู่เปลื้อง วัดสุวรรณภูมิ) พระเกจิอาจารย์ผู้ใหญ่ในเมืองสุพรรณบุรี สืบวิชาของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท และ หลวงปู่สอน วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี และยังเป็นศิษย์ พระธรรมมหาวีรานุวัตร สืบสายจาก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม
พระเกจิอาจารย์ในอดีตที่ถ่ายทอดวิชาหลวงปู่นิ่มให้มากที่สุดคือ หลวงปู่กล้าย วัดหงส์ฯ และท่าน ได้ร่ำเรียนคาถาเคล็ดวิชาอาคมจากหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ, สมเด็จพระสังฆราช (ป๋า) วัดโพธิ์ฯ, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อแช่ม วัดนวล นรดิศ, หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่, หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง, หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว, หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม, หลวงพ่อสม วัดดอนบุปผาราม, หลวงพ่อหรุ่น วัดเสาธงทอง, หลวงพ่อกาพย์ วัดจรรย์, หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นต้น
กล่าวขวัญกันว่า หลวงปู่นิ่ม ในเมืองสุพรรณเก็บตัวเงียบมานานแต่คนสุพรรณฯ รู้จักดี
ครั้งหนึ่งเคยมีลูกศิษย์ใส่สร้อยตะกรุดหลวงปู่นิ่มไปกราบนมัสการหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ เมื่อปี 2538 ปีที่หลวงพ่อคูณเริ่มดัง หลวงพ่อคูณจะเสกทั้งสร้อย ท่านจับแล้วลืมตา หยิบตะกรุดออกและบอกว่า "บ่ บ่ ใช้ได้แล้ว เฮ็ดเสียแรงโลด"
หลวงพ่อพยุง วัดบรรลังก์ เคยกล่าวไว้ว่า "บ้านเรา อีกหน่อยจะเหลือแต่อาจารย์นิ่ม วัดพุทธฯ เขาเสกของขึ้น"
ด้วยความที่หลวงปู่นิ่มเป็นผู้ที่มีชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก หลวงปู่นิ่ม จึงได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายรุ่น ทั้งเหรียญพระ พระผง รูปหล่อ เครื่องรางของขลัง ฯลฯ เพื่อมอบให้ผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างเสนาสนะภายในวัด
หลวงปู่นิ่มได้จัดสร้างเหรียญวัตถุมงคล ผูกพัทธสีมา ปี 2540 ท่านเสกเงียบๆ ที่กุฏิ ปรากฏว่า เมื่อท่านปิดกุฏิเสกสายฟ้าพุ่งเป็นสาย เข้าหากุฏิท่านจนเสกเสร็จ ชาวบ้านจึงได้ตั้งฉายาว่า "เหรียญสายฟ้าฟาด"
ปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงปู่นิ่มที่ได้รับความนิยมในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสม โดยเฉพาะเหรียญว่าวจุฬาซึ่งออกแบบเหรียญได้งดงามลงตัวจำนวนการสร้างน้อยมากไม่พอกับความต้องการของผู้ที่เคารพศรัทธาทำให้หมดไปจากศุนย์พระต่างๆที่เปิดให้บูชาทำให้ค่านิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ