จตุคามรามเทพ รูปหล่อขนาดบูชาหน้าตัก 5 นิ้ว สูง 9.9 นิ้ว รมดำ รุ่นโสฬสมหามงคล องค์พ่อจตุคามรุ่นที่สร้างขึ้นปี 50 พิธีถูกต้องตามศาตร์ แห่งสายจตุคาม จัดสร้างโดยคุณณสรรค์ อาจารย์เอกวิทย์เจ้าพิธี

จตุคามรามเทพ รูปหล่อขนาดบูชาหน้าตัก 5 นิ้ว สูง 9.9 นิ้ว รมดำ รุ่นโสฬสมหามงคล องค์พ่อจตุคามรุ่นที่สร้างขึ้นปี 50 พิธีถูกต้องตามศาตร์ แห่งสายจตุคาม จัดสร้างโดยคุณณสรรค์ อาจารย์เอกวิทย์เจ้าพิธี
จตุคามรามเทพ รูปหล่อขนาดบูชาหน้าตัก 5 นิ้ว สูง 9.9 นิ้ว รมดำ รุ่นโสฬสมหามงคล องค์พ่อจตุคามรุ่นที่สร้างขึ้นปี 50 พิธีถูกต้องตามศาตร์ แห่งสายจตุคาม จัดสร้างโดยคุณณสรรค์ อาจารย์เอกวิทย์เจ้าพิธีจตุคามรามเทพ รูปหล่อขนาดบูชาหน้าตัก 5 นิ้ว สูง 9.9 นิ้ว รมดำ รุ่นโสฬสมหามงคล องค์พ่อจตุคามรุ่นที่สร้างขึ้นปี 50 พิธีถูกต้องตามศาตร์ แห่งสายจตุคาม จัดสร้างโดยคุณณสรรค์ อาจารย์เอกวิทย์เจ้าพิธีจตุคามรามเทพ รูปหล่อขนาดบูชาหน้าตัก 5 นิ้ว สูง 9.9 นิ้ว รมดำ รุ่นโสฬสมหามงคล องค์พ่อจตุคามรุ่นที่สร้างขึ้นปี 50 พิธีถูกต้องตามศาตร์ แห่งสายจตุคาม จัดสร้างโดยคุณณสรรค์ อาจารย์เอกวิทย์เจ้าพิธีจตุคามรามเทพ รูปหล่อขนาดบูชาหน้าตัก 5 นิ้ว สูง 9.9 นิ้ว รมดำ รุ่นโสฬสมหามงคล องค์พ่อจตุคามรุ่นที่สร้างขึ้นปี 50 พิธีถูกต้องตามศาตร์ แห่งสายจตุคาม จัดสร้างโดยคุณณสรรค์ อาจารย์เอกวิทย์เจ้าพิธีจตุคามรามเทพ รูปหล่อขนาดบูชาหน้าตัก 5 นิ้ว สูง 9.9 นิ้ว รมดำ รุ่นโสฬสมหามงคล องค์พ่อจตุคามรุ่นที่สร้างขึ้นปี 50 พิธีถูกต้องตามศาตร์ แห่งสายจตุคาม จัดสร้างโดยคุณณสรรค์ อาจารย์เอกวิทย์เจ้าพิธี
หมวดหมู่ รวม จตุคามรามเทพ
ราคา 5,900.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
อัพเดทล่าสุด 25 มิ.ย. 2565
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

               
      
             
องค์พ่อจตุคามรามเทพ รุ่น " โสฬสมหามงคล "

 

            โดย อ.เอกวิทย์ ยอดระบำ ศิษย์เอกท่าน พล.ต.ต ขุนพันธ์

 

ชาวนครศรีธรรมราชมีคติความเชื่อที่ว่า องค์จตุคาม คือ พระเสื้อเมือง จตุ

หมายถึง สี่ คาม (คาม-มะ) เขตคาม หมายถึง อำณาเขตหรือบ้าน เมื่อรวม

กันนัยความหมายที่มากกว่าความเป็นทิศทั้ง 4 ของบ้าน หรืออาณาเขต คือ

ทิศทั้งสี่ซึ่งหมายถึงทิศที่มีท้าวจตุ โลกบาลทั้งสี่ดูแลอยู่ ความหมายของจตุ

คามจึงเป็น ตำแหน่งของผู้เป็นใหญ่ทั้งสี่ทิศมีท้วจตูมหาราช ปกป้อง

คุ้มครองดูแล พระเสื้อเมืองจึงมีความหมายที่ควรเป็นตำแหน่งๆหนึ่ง เพียง

แต่ปราชญ์โบราณของเมืองสมมติขึ้นเป็นท้าวจตุคาม ผู้เป็นใหญ่ใน 4 ทิศ

องค์รามเทพ คำว่า ราม มีรากฐานมาจากพระราม ที่หมายถึงพระนารายณ์

อวตารลงมาเป็นพระมหากษัตรึย์ คำว่าเทพ ก็คือเทวดา นัยความหมายคือ

เป็นพระมหากษัตริย์ที่เป็นสมมติเทพเมื่อองค์รามเทพเป็นพระทรงเมือง คำ

ว่าทรงเมืองพ้องกับคำว่า ครองเมือง นั่งเมือง หรือผู้ปกครองบ้านเมืองซึ่งก็

คือเจ้าเมืองหรือพระมหากษัตริย์

เชื่อกันว่าเดิมนั้น องค์จตุคามรามเทพ เป็นกษัตริย์ในสมัยอาณาจักร

นครศรีธรรมราช มีพระนามอย่างเป็นทางการว่า พระเจ้าจันทรภาณ เป็น

กษัตริย์พระองค์ที่ 2 ของราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช เชื่อว่ามีพระวรก่ายเป็น

สีเข้ม เป็นกษัตริย์นักรบที่แกร่งกล้า เมื่อสถาปนาอาณาจักรศรีวิชัยได้อย่าง

มั่นคงแล้ว จึงได้สมัญญานามว่า "ราชันดำแห่งทะเล ใต้" หรือมีอีกราช

สมัญญานามนึงว่า "พญาพังพกาฬ" และต่อมาสำเร็จวิชาจตุคามศาสตร์

และทร้งบำเพ็ญบุญเพื่สร้างบารมีอธิษฐานจิตเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อ

บรรเทาทุกข์แก้มนุษย์ทั้งปวง

ตราประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีรูปพระบรมธาตุอยู่ตรงกลาง

แต่หากเชื่อกันว่าจตุคามรามเทพคืออดีตกษัตริย์ศรีวิชัยแล้ว ดังเช่นพระเจ้า

วิษณุราชที่ปรากฏในหลักจารึกกรุงศรีวิชัย อยู่ในราว พ.ศ. 1318 ผู้สร้าง

พระบรมธาตุเมืองนครฯ จะดูขัดแย้งกันเพราะ เป็นยุคสมัยที่ห่างจาก

พระเจ้าจันทราภาณุ ก่อนถึง 400 ปี

พระบรมธาตุปรากฏชัดว่า มีสององค์ คือองค์จตุคามกับท้าวรามเทพ แต่

ภายหลังได้ร่วมเป็นองค์จตุคามรามเทพเพียงองค์เดียว ก็มิได้ผิดจากหลัก

ศาสตร์ของการสร้าง เฉกเช่นการอธิบายในหลักของตรีมูรติ ของศาสนา

ฮินดูที่เป็นการรวมกันของมหาเทพทั้ง 3 พระองค์ ดังนั้น จตุคามรามเทพ จึง

หมายถึง ดวงพระวิญญาณแห่งอดีตบูรพกษัตริยาธิราชเจ้าผู้มาสถิตย์เป็นผู้

คุ้มครองดูแลบ้านเมืองทั้งสี่ทิศทรงฤทธิ์อำนาจอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งยังเพียบ

พร้อมไปด้วยบารมีธรรม 10 ประการ แห่งพระโพธิสัตว์ ผู้มีความเมตตาต่อ

มนุษย์ผู้ทุกนาม เป็นพระเทวราชโพธิสัตว์

จตุคามรามเทพ มีบริวารเป็นทหารกล้า 4 นาย คือ พญาชิงชัย, พญาหลวง

เมือง, พญาสุขุม และพญาโหรา เป็นกำลังหลักในการปราบพราหมณ์ที่เคย

ปกครองเมืองอยู่ก่อน เมื้อได้บ้านเมืองแล้ว ได้สร้างพระบรมธาตุ

สถาปนาเมือง 12 นักษัตร หรือกรุงศรีธรรมาโศกราช ฝังรากฐานพระพุทธ

ศาสนาอย่างถาวร จนได้รับเทิดพระเกียรติว่า พญาศรีธรรมาโศกราช หรือ

พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช

ปัจจุบัน จตุคามรามเทพ ได้รับความนับถืออย่างกว้างขวาง โดยเชื่อว่าทรง

ฤทธานุภาพในทุก ๆ ด้าน ตามจารึกของชาวศรีวิชัยได้บอกว่า " มี

อานุภาพดุจดังพระอาทิตย์และพระจันทร์,ที่ขจัดความมืดมัวในโลก " การ

ขออธิษฐานจากพระองค์นั้นทำได้โดยมีเงื่อนไข 3 ประการ

อธิษฐานขอในสิ่งที่เป็นไปได้ โดยไม่ขัดต่อศีลธรรม

เมื่อได้รับสิ่งที่หวังแล้ว ต้องรักษาสัจจะที่ได้ให้ไว้กับพระองค์

ควรจะสร้างกุศลกรรมถวายแด่องค์จตุคามรามเทพ

แต่ที่สำคัญ อย่าลำพังเพียงอธิษฐาน ต้องสร้างกูศลกรรมให้แก่ตนเองให้

ครบทุกด้านด้วย คือ ให้ทาน รักษาศีล และบำเพ็ญภาวนา

ภาพลักษณ์ของจตุคามรามเทพ โดยมากจะปรากฎเป็นองค์เทพบุตรในท่า

นั่ง มี 4 กร ถืออาวุธต่าง ๆ และนายทหารู 4 นาย นั้น จะปรากฎในรูปของ

หนุมาน 4 กร ถืออำวุธในท่วงท่าต่าง ๆ ทั้งนี้ก็เป็นไปตามศิลปะศรีวิชัยที่มัก

สร้างสัญลักษณ์ขึ้นมาแทนความหมายต่างๆ

จตุคามรามเทพปรากฎชื่อครั้งแรกในหนังสือชีวิวัฒน์ ซึ่งเป็นพระนิพนธ์

ของสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรม

พระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระ

จุลจอมเกล้ำเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จตรวจราชการหัวเมืองปักษ์ใต้ เป็นการ

ส่วนพระองค์ ในพ.ศ.๒๔๓๗ ปรากฏความตอนหนึ่งว่า

...มีบันไดขึ้นบนกำแพงแก้ว ๑๕ ขั้น หัวบันไดนั้นมีฝาผนังทั้ง ๒ ข้าง มีรูป

พระข้างละองค์ ชื่อพระทัศตุคามองค์ ๑ ชื่อพระรามเทพองค์ 2 ตั้งอยู่หัว

ผนังทั้ง ๒ ข้าง แล้วมีนกอินทรีย์ข้างละตัวชื่อว่าท้าวกุเวรณราชตัวหนึ่ง ชื่อ

ว่าท้าวกุเวรเทพราชตัวหนึ่ง ข้างตีนบันไดนั้นมีรูปนนทยักษ์ยืนถือกระบอง

ข้างละตั๋ว...

จากบันทึกดังกล่าว พบว่าในปัจจุบัน รูปที่ได้รับการอ้างถึงยังคงปรากฎอยู่

โดยมีลักษณะเป็นรูปบุคคลนั่งชันเข่าด้านขวา และมีแผ่นหินอ่อนจารึกชื่อ,

ไว้ว่า เท้าข้ตตุคาม และ เท้ารามเทพ ซึ่งจะเห็นได้ว่าแตกต่างจากชื่อที่

ได้รับการบันทึกไว้ในเอกสารทางราชการเมื่อ ๑๐๐ ปีเศษมาแล้ว จึงอาจ

เป็นไปได้ว่ามีการติดแผ่นหินจารึกชื่อขึ้นมาใหม่ในสมัยหลัง

ในพระนิพพานโสตรวรรณกรรมท้องถิ่นเก่าแก่ของภาคใต้ได้กล่าวถึงที่มา

ของรูปปันบุคคลทั้งสองไว้ว่า ชื่อหมุดและหมูเป็นบุตรชายของเศรษฐีชาว

ลังกาชื่อ พลิติและพลิมุ่ย โดยเศรษฐีทั้งสองรับพระราชโองการจากพระเจ้า

กรุงลังกาให้นำทรัพย์สมบัติมาร่วมสร้างพระมหาธาตู ต่อมาบุตรชายทั้ง

สองทะเลาะกันเรื่องไก่ชนจนถึงกับฆ่ากันตาย เศรษฐีทั้งสองเศร้าโศก

เสียใจมากจึงนำเอาเถ้ากระดูกของบุตรทั้งสองมาผสมปูนแล้วปั้นเป็นรูป

ต่าง ๆ ภายในวิหารพระทรงม้า ซึ่งได้แก่ รูปเจ้าชายสิทธัตถะทรงม้าในวัน

ออกผนวช รูปสิงโตทางขึ้นพระธาตุ รูปพระพุทธรูปปางประทานอภัยองค์

ใหญ่ รวมทั้งรูปปั้นบุคคลทั้งสองนี้ด้วย โดยมีข้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า

..ปั้นรูปพิมพานางนารถ กอดราหลราช บุตรเศรษฐีชาติสองฝ่าย เจ้าหมุด

นั้นอยู่ข้างซ้าย ข้างขวาดยหมาย น้องชายเจ้าหมูนั้นหนา แล้วปั้นรูปพระ

พุทธา ผันพระพักตรา อยู่หน้าบันไดขึ้นลง ปันรูปสิ่งโตยิ่งยง ไว้รักษาองค์

จำนงเศรษฐีทั้งสอง

นอกจากนี้ตำแหน่งที่ตั้งของรูปบุคคลทั้งสองนั้นมีความมุ่งหมายให้เห็นถึง

ฐานะของผู้รักษาประตู ที่เรียกว่าเทพุทวารบาล ซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ ผู้

เฝ้าประตู หรือนายประตูตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น ภายในพระบรม

มหาราชวัง พระอุ โบสถ วิหารต่าง ๆ ทั้งยังมีหน้าที่คอยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายมิ

ให้ล่วงล้ำเข้าไปยังองค์พระบรมธาตอันศักดิ์สิทธิ์ โดยมิได้มีความ

เกี่ยวข้องใด ๆ กับอาณาจักรศรีวิชัย แม้แต่น้อย

 

 

ที่มา : สำนักงานศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช

 

 

                         คาถาสำหรับบูชาจตุคามรามเทพ

 

ตั้งสมาธิให้จิตใจสงบจากนั้นท่อง ( นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต

สัมมามัมพุทธัสสะ 3 จบ แล้วให้กล่าวตามบทสวดดังต่อไปนี้ "จะตุคามรา

มะเทวัง โพธิสัตตัง มะหาคุณัง มะทิทธิกัง อะห้ง ปูเชมิ สิทธิลา โภ นิรันตะรัง

นะโมพุทธายะ" ข้าพเจ้าขอบูชา ท้าวจตุคามรามเทพ โพธิสัตว์ ผู้มีพระคุณ

อันยิ่งใหญ่ มีฤทธานุภาพพศาล ขอความสำเร็จและลาภ จงมีแก่ข้าพเจ้า

เป็นนิรันดร

ถือได้ว่าเป็นจตุคามสายท่านขุนพันธ์อีกรุ่นหนึ่งถัดจากทูลเกล้า และหลักเมืองมหามงคลในปีนี้ พิธีมหาพุทธาภิเษกพิธีสุดท้ายวันนี้นี่เอง เจ้าพิธีของรุ่นนี้คืออาจารย์เอกวิทย์ ยอดระบำ ศิษย์เอกของท่านขุนพันธ์ ซึ่งในปัจจุบัน ศิษย์ที่ได้รับการสืบทอดวิชาจากท่านขุนพันธ์และสามารถทำพิธีแทนท่านได้คือ คุณฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช และอาจารย์เอกวิทย์ ผู้นี้เอง หากจะเอ่ยถึงรุ่นที่ท่านเป็นเจ้าพิธีแล้วละก็ ทุกคนจะต้องรู้จักอย่างแน่นอน เช่น

- พุทธามหาเวท วัดศาลาไพ ปี 2548

- พระเสื้อเมืองพระทรงเมือง ปี 2548-49

- เก้ารอบเก้าพิธี 108 ปีท่านขุนพันธ์

- และล่าสุด หลักเมืองมหามงคล 50

เรียกได้ว่ารุ่นที่คุณณสรรค์เป็นผู้สร้าง จะต้องมีอ.เอกวิทย์เป็นเจ้าพิธีเกือบทุกครั้งไป

 

วัตถุประสงค์ในการสร้างครั้งนี้เพื่อรำลึกครบรอบ 50 ปีโรงเรียนปากพูน จ.นครศรีธรรมราช นำเงินรายได้จัดซื้ออุปกรณ์ครุภัณฑ์กับจัดตั้งห้องสมุด และกองทุนศิษย์เก่า เพื่อการศึกษาครับ


วิธีการสั่งเช่าพระ


ขั้นตอนที่ 1
เลือกสินค้าที่คุณต้องการ โดยคลิกปุ่มสั่งซื้อ / หยิบลงตะกร้า
ขั้นตอนที่2
เมื่อเลือกสินค้าครบแล้ว ให้คลิกปุ่มสั่งซื้อสินค้าในตะกร้าสินค้า
ขั้นตอนที่ 3
กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน จากนั้นคลิกปุ่มยืนยันการสั่งซื้อ
ขั้นตอนที่ 4
ชำระค่าสินค้าและบริการ สามารถดู วิธีการชำระเงินได้ที่นี่
ขั้นตอนที่ 5
แจ้งการชำระเงินผ่านทางหน้าเว็บไซต์ แจ้งชำระเงิน
ขั้นตอนที่ 6
เมื่อทางร้านตรวจสอบรายการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะจัดส่งสินค้าให้คุณทันที
     

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาลาดพร้าว ซอย111 ออมทรัพย์

 

เปิดบริการ 24 ชม.

ผู้ชมทั้งหมด1,137,817 ครั้ง
เปิดร้าน21 พ.ค. 2558
ร้านค้าอัพเดท22 ต.ค. 2568

ติดต่อเรา 24 ชม.

หมวดหมู่พระเครื่อง

Join เป็นสมาชิกร้านค้า

ร้านบารมีพระ
ร้านบารมีพระ
www.barameepra.net/
Join เป็นสมาชิกร้าน
62
สมัครสมาชิกร้านนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษ
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านบารมีพระ
บารมีพระ
ศูนย์พระเครื่องออนไลน์ บารมีพระ พระบูชา พระเครื่อง เหรียญ รูปหล่อ เครื่องราง ของขลัง ยอดนิยม ตะกรุด เบี้ยแก้ รูปหล่อ เหรียญ ผ้ายันต์ กุมารทอง พระขุนแผน พระกริ่ง ของสะสม ยอดนิยม ของแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ รับประกันความแท้ตลอดชีพ พระเครื่องทุกรายการแท้100% รับประกันตลอดชีพ ถ่ายจากภาพจริง ให้บริการ โดยพล บางกะปิ
เบอร์โทร : 0830057095
อีเมล : pholandkaka@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม