พระบูชาพระพุทธอมตมงคลรังสี

วัด ใหม่อมตรส หรือชาวบ้านนิยมเรียกว่า "วัดบางขุนพรหม" ตั้งอยู่ที่บ้านพานถม บางขุนพรหม เขตพระนคร กทม.

ตามประวัติวัดนี้สร้างขึ้นในปลายรัชกาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบรี ประมาณปี พ.ศ. 2321 ไม่ปรากฏนามและประวัติผู้สร้าง

พระบาทสมเด็จพระจุล จอมเกล้าฯ โปรดให้สร้างถนนผ่านกลางวัด จึงกลายเป็น 2 วัด คือ วัดบางขนพรหมนอก (วัด

ใหม่อมตรส) และวัดบางขุนพรหมใน (วัดอินทรวิหาร เดิมวัดนี้มีชื่อว่า "วัดวรามะตาราม" ต่อมาเปลี่ยนชื่อว่า วัดอำ

มาตยรส หรือ วัดอมฤตรส

แต่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดบางขุนพรหม หรือ วัดบางขุนพรหมใน คู่กันกับ วัดบางขุนพรหมนอก หรือ วัดอินทรวิหาร

ต่อมาเมื่อปี ๒๕๖ㆍ วัดบางขุนพรหมใน เปลี่ยนชื่อเป็นทางการว่า วัดใหม่อมตรส จากการสันนิษฐานตามพงศาวดาร

เมื่อสมัยรัชกาลที่ 4 วัดนี้คงมีนามว่า "วัดอมตาราม" ซึ่งได้รับพระราชทานใหม่เป็น "วัดอมตรส"

ต่อมาได้เปลี่ยน เป็น "ดอมฤตยรส" จากที่ได้พบหลักฐานในใบตราตั้งเจ้าอาวาส พระอธิการเทศเป็นสมภาร ลงวันที่

15 สิงหาคม ร.ศ.120 ตรงกับปี พ.ศ.2444 และได้เปลี่ยนนามใหม่กเป็น "วัดใหม่อมตรส" เมื่อปี พ.ศ.2460

ครั้น ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัดถุบางอย่างขึ้น ดูเหมือนการสร้างใหม่จึงได้ใช้นามว่า "ใหม่" นำหน้าเข้าไป

 "วัดใหม่อมตรส" ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปีพ.ศ . 2321 เขตวิสูงคามสีมา กว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร

ผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 4-12 มกราคม 2509 ลำดับเจ้าอาวาส รูปที่ 1 สมภารอ่อน รูปที่ 2 สมภารอยู่ รูปที่ 3 สมภาร

เทศ รูปที่ 4 สมภารแถม รูปที่ 5 พระครูอมรคณาจารย์ (พ.ศ.2446-2512) รูปที่ 6 พระครบริหารคุณวัตร (ชม สิรินท

โร พ.ศ.2515-2551) รูปที่ 7 พระครพิพัฒนานกูล (เทียม นันทโก พ.ศ.2551 ถึงปัจจุบัน)

ท่านเจ้า ประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พหมรังสี) มีปฏิปทาเจริญมั่นคงทางวิปัสสนาก้มมัฏฐาน จึงมีผู้เลื่อมใส

เชื่อว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้วิปัสสนาญาณ อนาคตังสญาณ

หากได้ศึกษาประวัติและปฏิปทาของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็คงหราบกันดีว่า พระพิมพ์สมเด็จ (พระเครื่อง) ที่ได้

สร้างจากผงอิทธิเจ ปถมัง ตรีนิสิงเห และมหาราช บังเกิดมีอานุภาพ มีอภินิหาร มีเตช มีอำนาจ มีเมตตามหานิยม

และยังรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ป้องกันอันตรายทั้งปวง งเป็นที่นิยมเลื่อมใสศรัทธาอยู่ในจิตใจของประชาชนทั่วไป

ประวัติ และความสำคัญของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) ที่เกี่ยวข้องกับวัดใหม่อมตรส (วัดบางขุนพรหม) คือ

การสร้างพระพิมพ์สมเดีจ ของเสมียนตราด้วง "ต้นตระกูลธนโกเศต" การสร้างพระสมเด็จของเสมียนตราด้วง

ท่าน เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้เป็นประธานในจัดสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการโขลกผงก์ดี การผสมผงวิเศษของเจ้า

ประคุณสมเด็จฯ ก็ดี จนอธิษฐานจิตปลุกเสกท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ทรงทำด้วยพระองค์เอง

จน กระทั่งเสร็จพิ ได้พระสมเด็จจำนวน 84,000 องค์ และได้น่บรรจในพระเจดีย์ เมื่อปีพ.ศ. 2413-2415 และได้

เปิดกรุเพื่อนำพระสมเด็จออกจากเจดีย์ โดยพระครอมรคณาจารย์ (เส่ง) เจ้าอาวาสในขณะนั้น

ได้แต่งตั้งคณะ กรรมการโดยท่านเจ้าคณะอำเภอพระนคร เป็นประธาน พระสงฆ์ในวัดร่วมเป็นคณะกรรมการ ส่วน

ฝ่ายขราวาสได้เชิญ นายบุญทอง เลขกุล และได้เชิญ พลเอกประภาส จารเสยร รัฐมนตรีว่าการกระหรวง

มหาดไทยในขณะนั้น เป็นประธานในการเปิดกรุ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2500

หลังจากที่ ได้เปิดกรุแล้ว ทางวัดได้จัดงานพิธีพทธาภิษก และปุชนียวัตฤมงคล โดยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2509 ได้จัด

สร้างพระสมเด็จและได้นำบรรจไว้ในพระเจดีองค์เดิม จำนวน 84,000 องค์

ส่วนพระเครื่องที่เหลือ นำออกให้ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคนำไปบูชา

ครั้ง ที่ 2 ปี พ.ศ.2517 ได้จัดสร้างพระสมเด็จ เพื่อนำรายได้ก่อสร้างอาคารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เป็นอาคาร 4

ชั้น สำหรับให้เด็กศึกษาเล่าเรียน (โรงเรียนวัดใหม่อมตรส)

ครั้งที่ 3 ปี พ.ศ. 2531 ได้จัดสร้างพระสมเด็จเพื่อนำรายด้ก่อสร้างศาลาการเปรียญอเนก ประสงค์ 2 ชั้น (ศาลาสม

เด็จฯ)

ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2539 ได้จัดสร้างพะสมเด็จเพื่อนำรายได้ก่อสร้างมาปนสถาน (เมรุ)

ครั้ง ที่ 5 ปีพ.ศ.2543 ได้จัดสร้างพระสมเด็จ เพื่อรวบรวมปัจจัยมาก่อสร้างกฏิสงฆ์ 80 ปี สิรินธโร (พระครูบริหาร

คุณวัตร อดเจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส)

มาถึงวันนี้ พระสมเด็จ แลวัตถุมงคล ที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ได้หมดแล้ว ทางวัดจึงได้จัดสร้างขึ้นมาใหม่ คือ รุ่น "อมต

มหามงคล" เพื่อเป็นที่ระลึกครบ ๑๓๙ ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ประกอบด้วย พระพุทธรูป (จำลองจากพระ

ประธานในโบสถ์) หน้าตัก ๙ นิ้ว ๕ นิ้ว พระบูชารูปเหมือนสมเด็จฯโต หน้าตัก ๙ นิ้ว ๕ นิ้ว ๓ นิ้ว และขนาดห้อยคอ

เหรียญ พระพิมพ์สมเด็จ เนื้อผง บาตรน้ำมนต์เนื้อสัมฤทธิ์ ฯลฯ ซึ่งได้ประกอบพิธีเททองนำฤกษ์ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒

กรกฎาคม ๒๕๕๔ โดยมี พระราชรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร เป็นประธานในพิธี พระคณาจารย์นั่งอธิษฐาน

จิต ๔ ทิศ คือ หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม, หลวงพ่อทรัพย์ วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี, หลวงพ่อสิริ วัด

ตาล จ.นนทบุรี หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม ลาดพร้าว กหม. และพระครูวินัยธชาญณรงค์ วัดเลา กหม. เป็นผู้

ผสมชนวนโลหะ และเป็นเจ้าพิธี