หลวงปู่หอม เขมิโย วัดหนองชนะชัย จ.ลพบุรี   เป็นพระเกจิที่เก่งมากๆอีกรูปหนึ่ง เสียดายท่านได้มรณภาพเมื่อ 16 มิย.2553 อายุ 88ปี ทำให้วัตถุมงคลรุ่น เขมิโย 88ปีหลวงปู่หอม ไม่ทันได้เสกเพราะกำหนดปลุกเสกเดือนสิงหาคม  แต่ได้หลวงพ่อเพี้ยน และเกจิท่านอื่นๆเสกแทนครับ  ในสมัยท่านดำรงสังขาร หลวงปู่หอม สร้างวัตถุมงคลไม่กี่รุ่นเองครับ ท่านเป็นพระดังแบบเงียบๆไม่มีโปรโมท   หลวงปู่หอม มีพลังจิตกล้าแข็งและวิชาอาคมขลัง ชาวบ้านบางคนตั้งฉายาท่านเป็น “เทพเจ้าแห่งทุ่งเกาะแก้ว”  หลวงปู่หอม มีนามเดิมว่า หอม มโนรัตน์ เกิดเมื่อวันจันทร์ ปีจอ เดือน 4 พ.ศ.2465 ณ หมู่บ้านปลาซิว ต.หนองใหญ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  เมื่ออายุครบ 12 ปี โยมบิดาได้พาบุตรชายไปบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดจีนเลี้ยว วัดในพื้นที่ใกล้บ้าน โดยมีพระครูเทวราชญาณกวี เจ้าอาวาสวัดจีนเลี้ยว เป็นพระอุปัชฌาย์ เนื่องจากเห็นว่าเป็นเด็กที่มีความเฉลียวฉลาด ใฝ่การศึกษา หากปล่อยให้อยู่กับพ่อแม่ต่อไป เกรงว่าจะส่งเสียให้เล่าเรียนในระดับสูงไม่ได้ เนื่องจากทางบ้านมีฐานะยากจน จากนั้น จึงเดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรม ที่สำนักเรียนวัดขุนศรี อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และสอบได้นักธรรมชั้นเอก กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดหนองจีนเลี้ยว โดยมีพระครูเทวราชญาณกวี เจ้าอาวาสวัดจีนเลี้ยว เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาสิงห์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกาบุญมี เป็นพระอนุสาวนาจารย์  หลังครองผ้ากาสาวพัสตร์ พระหอมได้มุ่งมั่นศึกษาค้นคว้าในเรื่องปฏิบัติธรรม และเคยไปขอฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อศึกษาในด้านปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระมหาเถระชื่อดังแห่งยุค จนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฏิบัติยิ่ง  ท่านจึงละเลิกในด้านการศึกษาภาษาบาลี หันมาศึกษาด้านการปฏิบัติ ด้วยการออกเดินธุดงควัตรไปตามพื้นที่ป่าเขาลำเนาไพร โดยเริ่มจากการออกเดินธุดงค์ไปทางจังหวัดในภาคเหนือ ผ่านจังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น และอีกหลายจังหวัด ก่อนมุ่งเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่   เนื่องจากการออกเดินธุดงค์ปลีกวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพร จำเป็นต้องมีวิทยาคม เอาไว้ป้องกันภัยอันตรายนานัปการ เนื่องจากคนป่าคนดอยหรือพวกกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ตามดอยเขา ชอบลองวิชากับพระธุดงค์อยู่เป็นประจำ  ตัวท่านก็ไม่ได้ละเลยจากการศึกษาวิทยาคม ได้ฝึกฝนวิชาจากพระอาจารย์ชาวเขมร โดยต้องไปนั่งบริกรรมภาวนาท่องพุทโธ และมนต์คาถาต่างๆ อยู่บนหลุมฝังศพคนตายใหม่เพียงลำพังคนเดียว ทำให้จิตไม่ฟุ้งซ่านเกรงกลัวภยันตราย และเป็นการทำจิตให้เกิดสมาธิที่รวดเร็วอีกด้วย ด้วยสถานที่ตรงนั้นเป็นสถานที่สงบ ไร้คนรบกวน   เดินธุดงค์มาถึงบ้านหนองชนะชัย ท่านได้รับการบอกเล่าจากชาวบ้านว่า ทุก 7 วัน จะมีผีโพงลอยบนท้องฟ้าปรากฏให้เห็นเหมือนกับผีพุ่งไต้ ลักษณะเป็นลูกไฟกลมดวงใหญ่ลอยข้ามวัด ลอยข้ามหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสมัยก่อนชาวบ้านส่วนใหญ่มีความเชื่อเรื่องภูตผีวิญญาณ ภายหลังหลวงปู่หอม ทราบเรื่องราว ท่านได้แนะนำให้ชาวบ้านขุดหลุมขึ้นในเขตหมู่บ้าน 8 หลุม จากนั้น ท่านได้มอบดินเสกก้อนกลม ที่ทำขึ้นผสมกับชานหมากแจกจ่ายให้ชาวบ้าน นำไปฝังเอาไว้ในที่ทั้ง 8 ทิศ นับว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่ง เพราะนับแต่นั้นมา ไม่ปรากฏผีโพงลอยเป็นดวงไฟมาให้พบเห็นอีกเลย ทำให้ชาวบ้านอยู่กันอย่างไม่หวาดกลัวอีกต่อไป  ขณะเดียวกัน ขณะที่ชาวบ้านช่วยกันขุดหลุมนั้น ได้พบก้อนหินสีดำ มีลักษณะผิดแผกไปจากหินทั่วไป จึงได้มอบให้กับหลวงปู่หอม โดยท่านได้นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องวัตถุโบราณตรวจสอบ หลายคนลงความเห็นว่า บริเวณบ้านหนองชนะชัย ในอดีตคงจะเป็นเมืองทวารวดี และหินสีดำก้อนที่พบน่าจะเป็นหยกสีดำ ที่ชาวบ้านนำมาแกะสลักเป็นเครื่องประดับร่างกาย ได้แก่ ลูกปัด เนื่องจากเชื่อว่าสามารถปกป้องภัยอันตรายต่างๆ ได้

สำหรับ หลวงปู่หอม วัดหนองชนะชัย อ.โคกสำโรง  ลพบุรี  ได้สร้างพระที่ทำจากหยกดำเพียงครั้งเดียวคือ พระปิดตามหาลาภ  จำนวนสร้างหลักร้อยองค์ ประมาณ 500องค์ถ้าจำไม่ผิด ผู้สร้างเป็นศิษย์ใกล้ชิดและญาติของหลวงปู่ ไม่ได้ทำแบบพุทธพาณิชย์ จำนวนสร้างจึงไม่มากครับ ออกให้บูชาใหม่ๆองค์ละ 900บาท  พระรุ่นนี้สร้างตอนที่หลวงปู่มีอายุ 85ปี ต้นปีพ.ศ.2550  แม้ราคาพระตอนออกใหม่ๆสูง แต่พระก็หมดเกลี้ยงในเวลาไม่นานนัก พระปิดตา หินสีดำหรือหยกสีดำ  หลวงปู่หอมทำการปลุกเสกให้อย่างดี มีพุทธคุณในเรื่องเมตตามหานิยม คงกระพัน ที่สำคัญหลวงปู่บอกว่าโชคลาภดีมากๆ  พระปิดตารุ่นนี้เป็นที่แสวงหากันมากของหมู่ศิษย์ ซึ่งในปัจจุบันหายากมาก แม้แต่คนพื้นที่เองยังหาเจอสักองค์ก็ยากใครมีต่างเก็บเงียบ  องค์ที่เสนอมาพร้อมกล่องเดิม บูชาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน  หินดำหรือหยกดำ เป็นของกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งที่มีอานุภาพในตัวเอง  เป็นของสูงค่าตามธรรมชาติ