พระอินทร์มณีแดง (วิชาเทวดาบันดาลทรัพย์สร้างวัดโพนแพง)

พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สัญลักษณ์สำคัญของวัดโพนแพง และวิชาพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณนี้เป็นวิชาสำคัญที่หลวงพ่อลุนท่านเจริญบูชาเป็นปกติยังผลให้วัดโพนแพงถึงแม้ว่าวัดจะตั้งอยู่ ณ สถานที่ ถิ่นทุรกันดารก็ตาม ก็ยังคงมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องตามลำดับ หลวงพ่อลุนท่านได้กล่าวสรรเสริญไว้ว่า “เพราะได้วิชาสร้างพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณนี้แหล่ะ จึงส่งผลให้มีผู้ที่ศรัทธาหมั่นมา ทำบุญสักการบูชาที่วัดอย่างมิขาดสาย จนวัดเจริญรุ่งเรืองตราบเท่าปัจจุบันนี้”

พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณหรือพระอินทร์มณีแดงนี้หากใครได้ สักการบูชาแล้วจะยังผลให้ผู้ที่สักการบูชามีบารมีสูงส่ง อีกทั้งยังอุ้มชูให้ผู้สักการบูชาพ้นภัยไม่ลำบากขัดสน เรื่องทรัพย์สินเงินทอง ให้พบแต่ความเจริญก้าวหน้าในชีวิตอย่างต่อเนื่อง เกิดสิริมงคล สมบูรณ์พูนสุข อำนาจยศถาบรรดาศักดิ์ เสริมบารมีให้ประสพแต่ความสุขเจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไปจนกว่าจะสำเร็จเป็นเศรษฐี

“บุคคลผู้ที่ได้บูชาพระอินทร์ขี่ช้างเอราวัณนี้ ขอให้เทวดาผู้มีฤทธิ์เจริญด้วยสมบัติทั้งปวงโปรดคอยติดตามเลี้ยงดูให้ชีวิตของผู้บูชาอย่าให้ขาดแคลน ขัดสนในทรัพย์ปัจจัยต่าง ๆ อีกเลยตราบเท่าจนกว่าจะได้เป็นเศรษฐีในที่สุด”

“จงทำดีแล้วพระท่านจะคอยคุ้มครองช่วยเหลือ”ผู้ใดหมั่นสักการบูชาพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณมิได้ขาดบุคคลผู้นั้นเทวดาจะคอยติดตามเลี้ยงดูมิให้ชีวิตขาดแคลน ขัดสนในทรัพย์ปัจจัยต่าง ๆ ตราบเท่าจนกว่าจะได้เป็นเศรษฐีในที่สุด”

พระอินทร์มณีแดงรุ่นนี้ปลุกเสกตลอดพรรษาปี2543 ปรากฏเกียรติคุณทางเมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง สร้างจากเนื้อผงกำลังเจ็ดช้างสาร ผงว่านช้างผสมโขลง น้ำมันช้างผสมโขลง ว่านพระฤๅษีสามพันงา ผงลูกกรอกแมววิเชียรมาศ ว่านดอกทอง สีผึ้งสาวน้ำตาตก เครือเขาหลง ( สาวหลง ) เถาวัลย์หลง กาหลง ไม้ไก่กุก ผงวิเศษจากถ้ำผาแดงนางอาย ดินโป่ง 7 โป่ง 7 ป่าช้า 7 ท่าน้ำ 7 ตลาด 7 ทุ่ง 7 ยอดจอมปลวก(โพนแพง) ผงปถมัง มหาราช อิทธิเจ ตรีนิสิงเห มูลกัจจายน์ ผงพุทธคุณ ธรรมคุณและสังฆคุณ ผงมหาจักรพรรดิ ฯลฯ

ด้านหน้ารูปจำลองพระอินทร์ราชาทรงช้างเอราวัณ มือซ้ายถือวชิระ (สามง่าม) มือขวาถือลูกแก้วสารพัดนึกท่านนั่งสมาธิบนช้างเอราวัณล้อมพระคาถาว่า “ทะทะสุสุ” (หัวใจพระอินทร์) มาจากคำย่อว่า “ทะศะติงสา” แปลว่า “บารมีทั้ง 10 ประการ มี ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมะบารมี ปัญญาบารมี วิริยะบารมี ขันติบารมี สัจจะบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี อุเบกขาบารมี ทะตัวที่สอง มาจาก “ปรมัตถบารมี” หมายถึง “บารมีขั้นสูงสุดของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งปวง อักขระทั้ง 2นี้ มีความวิเศษประหนึ่ง “แก้วมณีโชติ” (มณีจินดา) ผู้ที่สักการะหมั่นภาวนาในใจมิไดขาด จักนำมาซึ่งความสมบูรณ์พูนสุข อุดมด้วยโชคลาภ ปราศจากภัยทั้งปวง สุตัวแรก มาจากคำว่า “สุคะโตภะคะวา” หมายถึงผู้ดำเนินไปด้วยดี มีโชค สุตัวที่สอง มาจากคำว่า “สุคะโต พารากะเต สวาหะ” หมายถึงผู้ดำเนินไปดี ผู้ล่วงพ้นไปแล้ว จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด ผู้ใดภาวนาในใจมิได้ขาด จะเดินทางไปทิศใด ย่อมปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ปราศจากเสนียดจัญไร คุณไสยทั้งปวง ผู้ใดคิดทำร้ายมิได้เทวดาทั้งหลายน้อมนำเอาโชคลาภมาให้มิได้ขาด

“ทะทะสุสุ” เป็นพระคาถาที่พระอินทร์น้อมนำมาสวดบูชาระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าแลผู้ที่สำเร็จหลุดพ้นจากอาสวะกิเลสทั้งปวง นำมาซึ่งความสมบูรณ์พูนสุขให้แก่ชีวิตของผู้พร่ำบ่น มีอำนาจราชศักดิ์เหมือนพระอินทราชา เพราะพระองค์ทรงภาวนาพระคาถานี้มิได้ขาด ผู้ใดภาวนาพระคาถาพระอินทร์มิได้ขาด จักนำมาซึ่งความสุขสมบูรณ์ทุกประการ แม้นตายไปก็จะได้จุติเป็นเทวดาชั้นดาวดึงค์ ( ชั้นเดียวกับพระอินทร์ ) ถ้าเป็นเทพบุตร จะมีนางฟ้าเป็นบริวาร(เมีย) ไม่น้อยกว่า 5,000 นาง แต่ไม่เกิน 50 โกศ (เท่ากับ 50 ล้านล้านนาง) จะมีวิมานที่ประกอบด้วยแก้วมณีสวยงาม 7 ประการได้แก่ แก้วอันมีชื่อว่า มณีโชติ วิเชียรมาศ ไพทูรย์ ปัทมราช ทับทิม จินดา มรกต มีทองคำเป็นพื้นวิมานมีสวนอุทยาน พร้อมสระน้ำแก้วประกายพฤกษ์ มีบริวารเป็นทหารผู้ชายรับใช้ไม่เกิน 50โกฏิ เสวยสุขอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นนี้ประมาณ 1,000 ปีทิพย์ กาลเวลา 1 วัน(24 ชั่วโมง)ของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เท่ากับ 9 ล้านปีในโลกมนุษย์ !!!

หากจะใช้ทางเมตตามหานิยม ติดต่อเจรจา เข้าหาผู้คน ให้ภาวนาพระคาถาว่า “โอมแสงวับจับแสงตา พระอินทร์จับหน้า จับตา สวาหะ”