จ้าของตำนานนกสาริกาปากดีอันโด่วดังแม้แต่ชาวต่างชาติยังข้ามน้ำข้ามทะเลมาเสาะแสวงหาไว้บูชาติดตัวด้วยสุดยอดแห่งมหานิยมเมตตาค้าขาย แรงจริง ขลังจริง เห็นผลจริง สมดังคำล่ำลือมากมาย พ่อค้าแม่ค้าต่างมาหาของท่านไปบูชาทั้งนั้นพระผู้อุทิศตัวเพื่อพระพุทธศาสนา "หลวงปู่เณร คัมภีโร" ได้ดำเนินการก่อสร้างวัดขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานปฏิบัติธรรม เป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแก่ลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพศรัทธายึดมั่นในหลักแห่งคุณความดี ตามหลักศาสนาพุทธ อีกในหนึ่งเพื่อเป็นการแทนคุณบิดามารดาคุณครูบาอาจารย์ และคุณพระพุทธศาสนาวัดบ้านเกษตรทุ่งเศรษฐี ตั้งอยู่ที่หมู่ 11 บ้านเกษตร ต.โพนทอง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เริ่มก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2549 สร้างด้วยแรงศรัทธาของคณะลูกศิษย์ลูกหาที่มีต่อหลวงปู่เณรอย่างแท้จริงศรัทธาธรรมที่หลั่งไหลเข้ามาดุจสายธารเป็นกำลังใจให้แก่ "หลวงปู่เณร คัมภีโร" ในการมุ่งมั่นที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาและช่วยเหลือสั่งสอนญาติโยมต่อไปได้เป็นอย่างดี แรงศรัทธาที่ท่านได้รับนั้น ได้มาด้วยความเพียรพยายามที่จะเข้าถึงพระพุทธศาสนา และความมานะอดทนในการเสาะหาศึกษาวิชาความรู้ ทั้งธรรมะ ตลอดจนวิทยาคมต่างๆ จากครูบาอาจารย์ทั่วทุกสารทิศ รวมถึงศาสตร์ที่ได้มาแบบครูพักลักจำตั้งแต่ยังเยาว์วัย ล้วนเป็นสิ่งที่หลวงปู่เณรได้ศึกษาสะสมมาเพื่อใช้ให้เกิดเป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา และพุทธศาสนิกชนเสมอมา
หลวงปู่เณร คัมภีโร
สำนักสงฆ์บ้านเกษตรทุ่งเศรษฐี ตำบลแวง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
พระปลัดเอกนรินทร์ หรือ หลวงปู่เณร คัมภีโร สำนักสงฆ์บ้านเกษตรทุ่งเศรษฐี ต.แวง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด พระเกจิดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งแดนอีสานใต้ เป็นผู้ใฝ่หาพระเวทย์วิทยามาตั้งแต่เยาว์วัย ถูกเรียกว่า “หลวงปู่เณร” มาตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ พรหมลิขิตได้หักเหให้ท่านต้องออกจากบ้านตั้งแต่อายุ ๙ ขวบ เพื่อไปศึกษาปฏิบัติธรรมเรียนสรรพเวทวิชาทั้งสายพม่า-ลาว-เขมร ท่านเป็นพระหนุ่มไม่กี่รูปในเมืองไทยที่ศึกษาพระเวทย์วิทยามาอย่างเจนจบและรู้แจ้ง จัดอยู่ในประเภทมากครูมากอาจารย์ ประโยคที่ว่า “ธุดงค์ไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ” นั้นเหมาะสมกับตัวท่านมากที่สุด
ท่านเคยไปศึกษากับหลวงปู่คำพันธ์ วัดพระธาตุมหาชัย , หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร , พระอาจารย์คำ แห่งภูเขาควาย ประเทศลาว , เคยเรียนกรรมฐานจากหลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน , หลวงพ่อฤาษีลิงดำ , เคยไปเรียนวิชาสร้างนกคุ้มกับหลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู , เรียนวิชาสร้างหุ่นพยนต์กับอาจารย์หม่อง ชาวเขมร , หลวงพ่อเซดอร์ ประเทศพม่า , เรียนการสักยันต์ จากสำนักหลวงพ่อเปิ่น , เรียนวิชาเป่าทองเข้าหน้าผากกับหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จ.นครปฐม ฯลฯ นอกจากนั้นท่านยังเป็นสายญาณของปู่ฤาษีตาไฟ คือมีจิตวิญญาณทิพย์ของปู่ฤาษีตาไฟประทับผ่านร่างของท่านในบางโอกาสที่เหมาะสม เพื่อโปรดลูกศิษย์ลูกหา เช่นในขณะทำพิธีครอบครูและไหว้ครู
พระฤาษีตาไฟ นี้ท่านมีฤทธิ์อำนาจแรงกล้า ถ้าหากเปิดตาที่สามขึ้นมาเมื่อใด สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าท่านอาจมอดไหม้กลายเป็นจุลภายในพริบตา โบราณจึงไม่นิยมสร้างเศียรฤาษีตาไฟให้มีตาที่สามบนหน้าผาก (เพราะแรงเกินไป บางสำนักอาจไม่ทราบความจริงข้อนี้ จึงเผลอสร้างตาที่สามเปิดอยู่ โดยไม่รู้ตัว คงคิดว่าสวยงามเท่กว่ามีสองตา โปรดระวังจะต้องอาถรรพ์ได้) พระฤาษีตาไฟข้อนข้างดุ พูดจาเสียงดัง แต่มีจิตใจเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ชอบสร้างทานบารมี สามารถบนบานบอกกล่าวได้
เหนือสิ่งอื่นใด หลวงปู่เณรท่านปรารถนาจะให้สานุศิษย์ มีศรัทธาในพระรัตนตรัย มีการเข้าวัด ถือศีล ฟังธรรม ปฏิบัติสมาธิภาวนา เป็นต้น ผลประโยชน์จะเกิดแก่ผู้ปฏิบัติเอง แต่ถ้าใครปรารถนาจะมีวัตถุมงคล ไว้เป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิต ท่านก็ไม่ได้ห้าม…ห้ามอย่างเดียว คือ ห้ามคนชั่วไปใช้เท่านั้น……เพราะมันจะไม่เกิดผลใดๆ เลย…….
เครดิต เพจ Facebook เรื่องเล่าขานตำนานพระเกจิฆราวาส-วัตถุมงคลเครื่องราง" ประชาสัมพันธ์งานบุญ"