ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วฯ ล็อกเก็ตนิโรธกรรม๙ หลังเงิน โค๊ต ๑๗๔ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นล็อกเก็ตที่จัดสร้างขึ้นหลังจากครูบาอริยชาติเข้านิโรธกรรมครั้งที่๙ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย สวยสะสม กล่องเดิมแท้ สร้างแค่ ๓๑๑ องค์

ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วฯ ล็อกเก็ตนิโรธกรรม๙ หลังเงิน โค๊ต ๑๗๔ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นล็อกเก็ตที่จัดสร้างขึ้นหลังจากครูบาอริยชาติเข้านิโรธกรรมครั้งที่๙ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย สวยสะสม กล่องเดิมแท้ สร้างแค่ ๓๑๑ องค์
ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วฯ ล็อกเก็ตนิโรธกรรม๙ หลังเงิน โค๊ต ๑๗๔ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นล็อกเก็ตที่จัดสร้างขึ้นหลังจากครูบาอริยชาติเข้านิโรธกรรมครั้งที่๙ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย สวยสะสม กล่องเดิมแท้ สร้างแค่ ๓๑๑ องค์ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วฯ ล็อกเก็ตนิโรธกรรม๙ หลังเงิน โค๊ต ๑๗๔ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นล็อกเก็ตที่จัดสร้างขึ้นหลังจากครูบาอริยชาติเข้านิโรธกรรมครั้งที่๙ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย สวยสะสม กล่องเดิมแท้ สร้างแค่ ๓๑๑ องค์ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วฯ ล็อกเก็ตนิโรธกรรม๙ หลังเงิน โค๊ต ๑๗๔ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นล็อกเก็ตที่จัดสร้างขึ้นหลังจากครูบาอริยชาติเข้านิโรธกรรมครั้งที่๙ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย สวยสะสม กล่องเดิมแท้ สร้างแค่ ๓๑๑ องค์
หมวดหมู่ พระเกจิ คณาจารย์ ภาคเหนือ
ราคา 6,900.00 บาท
อัพเดทล่าสุด 13 พ.ค. 2566
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

การเข้านิโรธกรรมของพระครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต

 ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 9 แล้ว ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามแบบโบราณาจารย์ในสายของ ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา โดยเน้นธุดงควัตร 13 เข้านิโรธกรรมที่ไม่เหมือนผู้ใด  คือ เป็นการกระทำแบบลำบาก ซึ่งพระครูบาอริยชาติได้ตั้งสัจอธิษฐานเอาไว้ว่า ในชาตินี้จะขอกระทำนิโรธกรรมเพียง 9 ครั้ง โดยจะกระทำไม่ซ้ำที่กัน และไม่กำหนดว่าจะกระทำติดต่อกันหรือไม่

วิถีทางแห่งการฝึกฝนกายและจิตที่สำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งพระบูรพาจารย์แถบล้านนาในสายครูบาศรีวิชัยได้ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้จิตเข้าถึงซึ่งความสงบเพื่อการดับทุกข์อย่างแท้จริง การฝึกตนด้วยวิธีการดังกล่าวนี้เรียกว่า การเข้านิโรธกรรม

คำว่า นิโรธกรรม” แปลตามรูปศัพท์ หมายถึง การกระทำให้ถึงซึ่งความดับทุกข์ วิธีการโดยทั่วไปคือ ผู้เข้านิโรธกรรมจะต้องนั่งภาวนาในท่าเดียวตลอด 7 วัน 7 คืน หรือ 9 วัน 9 คืน ตามแต่จะอธิษฐานในแต่ละครั้ง โดยไม่ฉันอาหารใด ๆ นอกจากน้ำเปล่าเท่านั้น ไม่ถ่ายหนัก ไม่ถ่ายเบา และปิดวาจาไม่พูดคุยกับผู้ใดทั้งสิ้นตลอดเวลาที่เข้านิโรธกรรม

 

กล่าวโดยสรุปแล้ว การเข้านิโรธกรรม คือ การดับสัญญาความจำได้หมายรู้ในอารมณ์อันเกิดจากประสาทสัมผัสทั้ง 6 (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) เป็นการดับการเสวยอารมณ์เหล่านั้นลงชั่วขณะในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งนั่นเอง

เมื่อครั้งที่ครูบาชุ่ม โพธิโก อดีตเจ้าอาวาสวัดชัยมงคล (วัดวังมุย) ยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านได้ดำเนินตามวิถีปฏิบัติของครูบาศรีวิชัย ด้วยการเข้านิโรธกรรมเช่นกัน เพียงแต่ในคราวนั้น พระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ซึ่งมีชีวิตอยู่ในยุคสมัยเดียวกับครูบาชุ่ม (หลวงพ่อฤาษีลิงดำเกิดก่อนครูบาชุ่ม 18 ปี) ได้กล่าวกับลูกศิษย์ของท่านถึงการเข้านิโรธกรรมของครูบาชุ่มว่า

 “นี่ครูบาชุ่ม ท่านเข้านิโรธสมาบัติ

ทั้งนี้ คำว่า นิโรธสมาบัติ” และ นิโรธกรรม” ทั้งสองคำนี้มีความหมายต่างกัน กล่าวคือ ผู้ที่เข้า นิโรธกรรม” จะนั่งภาวนาโดยฉันแต่น้ำเปล่า ไม่ถ่ายหนัก-เบา ไม่พูดจาใดๆ ตลอดการเข้านิโรธกรรม

ในขณะที่ นิโรธสมาบัติ หมายถึง ภาวะการดับสัญญา และดับเวทนา เป็นการเข้าถึงฌานสมาบัติขั้นสูง โดยการปฏิบัติในขั้นนี้ กายสังขารและจิตตสังขารจะระงับไป คือแทบไม่มีลมหายใจ ไม่มีความรู้สึกทางกายและทางใจ แต่ก็ไม่ใช่พระนิพพาน สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่สามารถเข้า นิโรธสมาบัติ” ได้นั้น พระบาลีระบุว่า ต้องเป็นพระอนาคามีและพระอรหันต์เท่านั้น ต่ำกว่านั้นไม่สามารถเข้าได้” นั่นหมายถึง ผู้ที่สามารถเข้าถึงนิโรธสมาบัติได้จะต้องเป็นพระอริยบุคคลในระดับ พระอนาคามี” หรือ พระอรหันต์” ผู้ได้ฌานสมาบัติ 8 เท่านั้น

 

การเข้านิโรธสมาบัติ จึงเป็นการเข้านิโรธเต็มกำลังสำหรับพระอริยบุคคลระดับพระอนาคามีและพระอรหันต์ และเป็นการฝึกตนอย่างหนักและเคร่งครัดกว่าการเข้านิโรธกรรม เนื่องจากเป็นการฝึกด้วยวิธีการซึ่งเหนือวิสัยที่มนุษย์ธรรมดาทั่วๆ ไปจะกระทำได้นั่นเอง

เมื่อครั้งยังเป็นสามเณรและจำพรรษาอยู่ที่วัดชัยมงคล สามเณรอริยชาติได้พบ ตำราปั๊บสา” ซึ่งเป็นบันทึกการเข้านิโรธกรรมของครูบาชุ่ม ที่คัดลอกมาจากครูบาศรีวิชัยอีกต่อหนึ่ง

 

(หมายเหตุ ปั๊บสา หรือ พับสา เป็นเอกสารโบราณประเภทหนึ่งของล้านนา มีความสำคัญรองจากเอกสารประเภทใบลาน  ตำราปั๊บสา” เป็นสมุดหรือตำราที่ชาวบ้านทำขึ้นใช้เอง เพื่อบันทึกคติ ความเชื่อ คาถา บทสวด ตำรายันต์ ตลอดจนความรู้แขนงต่างๆ ผู้ที่เป็นเจ้าของพับสาส่วนใหญ่มักเป็นผู้รู้หรือปราชญ์ชาวบ้านในยุคโบราณ โดยบันทึกสืบเนื่องมาจากสมัยที่ได้บวชเรียน (ไม่พบว่ามีผู้หญิงเป็นเจ้าของพับสาเลย) และด้วยเหตุที่ทำจากกระดาษสาจึงเรียกว่า พับสา” (หากเป็นเอกสารที่ทำจากต้นข่อย ภาษากลางจะเรียก สมุดข่อย))

 

ตำราปั๊บสา” ที่สามเณรอริยชาติได้พบฉบับนี้ เป็นบันทึกที่มีใจความสำคัญกล่าวถึงการปฏิบัติโดยเน้นธุดงควัตร 13 และการเข้านิโรธกรรมด้วยวิธีการที่ลำบาก โดยหลังจากได้พบตำราดังกล่าวแล้ว สามเณรอริยชาติซึ่งตั้งใจจะดำเนินรอยตามมรรควิถีของครูบาอาจารย์ผู้ทรงศีลอันบริสุทธิ์ ก็ได้ตั้งสัจจะอธิษฐานว่าในชาตินี้จะขอกระทำนิโรธกรรมเพียง 9 ครั้ง

 

            การทำนิโรธกรรมตามแบบฉบับของครูบาเจ้าศรีวิชัยนั้น ท่านให้ขุดหลุมลึก 1 ศอก กว้าง 2 ศอก พอดีเข่า แล้วสร้างซุ้มฟางครอบให้มีความสูง แค่เลยศีรษะ 1 ศอก โดยจะยืนไม่ได้ ไม่ถ่ายหนัก ไม่ถ่ายเบา ฉันแต่น้ำ 1 บาตร ที่นำเข้าไปด้วย มีผ้าขาวปู 4 ผืน รองนั่ง แทนความหมาย คือ อริยสัจ 4 ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค  มีเสาซุ้ม 8 ต้น แทนความหมาย มรรค 8  ยอดซุ้มปักธงฉัพพรรณรังสี อันมีความหมายถึงปัญญา ราชวัตรล้อมซุ้ม มี 9 ชั้น แทนความหมายของ โลกุตรธรรม 9 คือ มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 รวมเป็น 9

การกระทำนิโรธกรรมของพระครูบาอริยชาติ จะเข้าในสถานที่สัปปายะ ห่างไกลผู้คน โดยมีชาวบ้านจัดเวรยามรักษาในรัศมี 100 เมตร เพื่อป้องกันการรบกวน  โดยก่อนที่จะกระทำการนิโรธกรรม จะต้องมีพระสงฆ์ 5 รูป รับรองความบริสุทธิ์ถึงจะกระทำได้  และเมื่อออกจากนิโรธกรรม จะเป็นที่รู้กันดีในหมู่ศิษยานุศิษย์ว่า การได้ร่วมทำบุญตักบาตรกับพระสงฆ์ผู้ซึ่งออกจากนิโรธกรรมนั้น จะได้รับอานิสงส์ใหญ่หลวงมากมายหลายประการ

 ในการเข้านิโรธกรรมของพระครูบาอริยชาติ ครั้งที่ 9 นี้ ได้กำหนด วันเข้าในวันที่ 4 มกราคม 2556 และออกจากนิโรธกรรมในวันที่ 12 มกราคม 2556 เวลาประมาณ 04.00 น. (เช้าวันที่ 12 ตี 4)

จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ร่วมกันสร้างบุญ สร้างกุศล สร้างบารมี ร่วมกับพระครูบาอริยชาติ ในวันที่ 12 มกราคม 2556 อันเป็นวันออกจากนิโรธกรรม

            ในวันดังกล่าว จะมีการทำบุญตักบาตรกับพระครูบาอริยชาติ และพระสงฆ์อีกหลายรูป ปัจจัยจากการทำบุญ และจากการให้เช่าบูชาวัตถุมงคล ที่อธิษฐานจิตในระหว่างเข้านิโรธกรรมทั้งหมด สมทบทุนปรับแต่งภูมิทัศน์รอบฐานรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัยและศาสนวัตถุภายในวัดแสงแก้วโพธิญาณ เช่น พระวิหาร,พระอุโบสถ,หอไตร,ศาลาการเปรียญ,ห้องน้ำ และกำแพงวัด เป็นต้น

 

กำหนดการ

ออกนิโรธกรรม วันที่  12 มกราคม พ.ศ.2556   เวลา 04.00 น.(ตี 4)

-  04.00 น. พระครูบาอริยชาติ ออกนิโรธกรรม เดินรับบิณฑบาตร

-  09.00 น. พิธีสืบชะตาหลวง

-  13.00 น. พิธีบวงสรวง เทพเทวดาฟ้าดิน

-  15.00 น. พิธีเททองหล่อพระ

-  16.00 น. ร่วมปล่อยชีวิตโค-กระบือ

ร่วมทำบุญ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

วัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย 57180

วิธีการสั่งเช่าพระ


ขั้นตอนที่ 1
เลือกสินค้าที่คุณต้องการ โดยคลิกปุ่มสั่งซื้อ / หยิบลงตะกร้า
ขั้นตอนที่2
เมื่อเลือกสินค้าครบแล้ว ให้คลิกปุ่มสั่งซื้อสินค้าในตะกร้าสินค้า
ขั้นตอนที่ 3
กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน จากนั้นคลิกปุ่มยืนยันการสั่งซื้อ
ขั้นตอนที่ 4
ชำระค่าสินค้าและบริการ สามารถดู วิธีการชำระเงินได้ที่นี่
ขั้นตอนที่ 5
แจ้งการชำระเงินผ่านทางหน้าเว็บไซต์ แจ้งชำระเงิน
ขั้นตอนที่ 6
เมื่อทางร้านตรวจสอบรายการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะจัดส่งสินค้าให้คุณทันที
     

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาลาดพร้าว ซอย111 ออมทรัพย์

 

เปิดบริการ 24 ชม.

ผู้ชมทั้งหมด1,116,133 ครั้ง
เปิดร้าน21 พ.ค. 2558
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

ติดต่อเรา 24 ชม.

หมวดหมู่พระเครื่อง

Join เป็นสมาชิกร้านค้า

ร้านบารมีพระ
ร้านบารมีพระ
www.barameepra.net/
Join เป็นสมาชิกร้าน
60
สมัครสมาชิกร้านนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษ
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านบารมีพระ
บารมีพระ
ศูนย์พระเครื่องออนไลน์ บารมีพระ พระบูชา พระเครื่อง เหรียญ รูปหล่อ เครื่องราง ของขลัง ยอดนิยม ตะกรุด เบี้ยแก้ รูปหล่อ เหรียญ ผ้ายันต์ กุมารทอง พระขุนแผน พระกริ่ง ของสะสม ยอดนิยม ของแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ รับประกันความแท้ตลอดชีพ พระเครื่องทุกรายการแท้100% รับประกันตลอดชีพ ถ่ายจากภาพจริง ให้บริการ โดยพล บางกะปิ
เบอร์โทร : 0830057095
อีเมล : pholandkaka@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม