บัวพรหมยอดเพชร

ก่อนที่เราจะบูชาคุณพระพุทธเจ้า หรือสวดมนตร์พระคาถาต่างๆแต่โบราณมาท่านจะต้องตั้ง "นะโมสามจบ" ก่อน อันคำว่า"นะโม"นี้เป็นคำหรือบทกล่าวของพระยามาร เมื่อครั้นที่เจ้าชายสิทธัตถะออกบรรพชา ครั้นถึงเช้าวันที่พระองค์ตรัสรู้ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้มี พระยามารยกกองทัพใหญ่มาหมายขัดขวางทางสำเร็จของพระพุทธเจ้า จนพระแม่ธรณีได้ผุดขึ้นมาจากแผ่นดินแล้วกล่าวอ้างเป็นพยานบุญต่อพระศาสดา และได้บีบมวยผมน้ำอุทาธก ก็ไหลออกมาจนท่วมเหล่าพลยกพระยามาร แม้จะเนรมิตกายใหญ่สูงโตเท่าใด น้ำพุทกก็ไม่วายหยุดกลับไล่ท่วมท้นเลยจมูก-ปาก จนยักษ์บางต้นสำลักน้ำตาย

อันคำว่า"นะโม"นี้ พระยายักษ์สันตะคีรี คำ"ตัสสะ"ผู้กล่าวคือ องค์อสุรินทร์ราหู คำว่า"ภะคะวะโต"ผู้กล่าวคือ เท้ามหาราชทั้งสี่ ได้แก่ ท้าววธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรุฬปักษ์ และเท้าเวสสุวรรณ
คำว่า"อะระหัตโต"ผู้กล่าวคือ พระจันทร์ เป็นคำนอบน้อมต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
คำว่า"สัมมาสัมพุทธะ"ผู้กล่าวคือ ท้าวมหาพรหมสหัมปติ คำทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคำที่เราบรรดาทวยเทพ ยักษ์ เทวดา และพรหม ต่างกล่าวนอบน้อมพระพุทธองค์ ในวันแรกที่ได้ตรัสรู้ อนุตรธรรมคือ พระนิพพานธรรม ผู้กล่าวนอบน้อมอสุรินทร์ราหู พระยายักษ์สันตาคีรี และท้าวเวสสุวรรณ ผู้เป็นจอมยักษ์ทั้งสามพระองค์ ท่านเหล่านี้ล้วนทรงบุญญาธิการทั้งสิ้น หากท่องกล่าวคำ"นะโมตัสสะภะคะวะโต"ด้วยความเคารพศรัทธาก็สามารถป้องกันภูตผีปีศาจได้ เพราะมีคำกล่าวของพระราหูและของเท้าเวสสุวรรณ ภูตผีปีศาจ ทั้งหลายเกรงกลัวพระรามหูและท้าวเวสสุวรรณ ฉันใด ผู้มีความเคารพพระราหูและท้าวเวสสุวรรณ ย่อมได้บารมีข้อนี้ และเมื่อท่องคำว่า"นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหัตโต สะมมาสัมพุทธัสสะ"3 ครั้ง ก็ย่อมเต็มเปี่ยมไปด้วยบารมีของเทพยดาและพระพุทธองค์อีกด้วย จึงเป็นบทคาถาศักดิ์สิทธิ์มาก การท่องทุกครั้งถ้าได้ระลึกถึงเทพเทวา เทพอสูรพระพุทธเจ้า ย่อมเป็นสิริมงคลสูงสุด เมื่อกล่าวถึงเรื่องบทคำว่า"นะโม"นี้แล้วจึงได้นึกถึงเรื่อง"บัวพรหมยอดเพชร"ของหลวงปู่หงษ์พรหมปัญโญ สำนัก สุสานทุ่งมนจังหวัดสุรินทร์ เจ้าเดียวที่สร้างวัตถุมงคลเป็นบัวพรมมหามงคล มีรูปแบบ รูปทรงอันแปลก แลมีปริศนาธรรมลึกซึ้ง อันสื่อสร้างจากต้นธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ คือธาตุทั้งสี่
     ผู้ใดกระทำการสักการะบูชาแล้ว ย่อมมีความร่มเย็นเป็นสุข รักสนะรูปแบบทรงเป็นศิลปะขอมโบราณ ที่เกิดแต่เทพนิมิต หลายท่านได้พิจารณาเห็นแล้ว ต่างกล่าวว่าเป็นรูปแบบที่แปลกดี ทางผู้จัดสร้างคือ กองทุนปลูกป่าหลวงปู่หงษ์ โดย อาจารย์ยุทธนันต์(หลวงพ่อยุทธ)

บอกว่าหล่อหรือทำยากมาก เพราะมีหลายพิมพ์หลายแบบซับซ้อนกันอยู่ในรูปทรงดอกบัวเดียวกัน มีความต่อเนื่อง อย่างมีมิติ และความเป็นสิริมงคลถูกต้องโดยจะขอเล่ากล่าวตั้งแต่ชั้นแรกเป็นปฐม
โดยมีดอกบัวผุดขึ้นมาจากธาตุดิน ธาตุน้ำ จึงบังเกิดมีทวยเทพชั้นจตุโลกมหาราช จตุโลกบาลทั้งสี่ทิศ อยู่ล้อมรอบคลุมดูแลรักษา อันดอกบัวพรหมนี้เปรียบเสมือนเท่ากับเป็นโลก จะมีกลีบอยู่ 4 กลีบ รอบทั้งสี่ทิศของโลก

โดยบัวกลีบที่ 1 อยู่ทางทิศเหนือ ได้อัญเชิญท้าวมหาราชเวสสุวรรณ ประทับอยู่บนกลีบบัว

ส่วนกลีบบัวทิศที่ 2 ได้อัญเชิญท้าววธตรฐมหาราช ผู้เป็นนายของเหล่าเทวดาคนธรรพ์ ประจำอยู่ทางทิศตะวันออก

ส่วนกลีบบัวทิศที่ 3 ได้อัญเชิญ ท้าววิรุฬหก เป็นนายของเหล่ายักษ์ ปักกระหลั่นยักษ์ขมูขี ได้อัญเชิญมาคุ้มครองรักษาอยู่ทางทิศใต้ ของกลีบบัวพรมยอดเพชร
    และบัวพรหมกลีบสุดท้าย ได้อัญเชิญท้าววิรุฬปักโข ซึ่งเป็นนายของเราพระยานาค ท้าวนาคาคุ้มกรุงบาดาล
เบื้องล่าง
        จะเห็นได้ว่า เพียงกลีบบัวพรหมด้านล่างทั้งสี่ทิศ สี่กลีบนี้ก็ขลัง และศักดิ์สิทธิ์แล้ว เพราะปัจจุบันจะหาเช่าบูชาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ทิศนั้น ยังไม่ค่อยมีสำนักใดสร้างนัก ส่วนใหญ่จะสร้างแต่ท้าวเวสสุวรรณ ไว้กันภูตผีปีศาจเสนียดจัญไร ทั้งดีทางโชคลาภ แต่บัวพรมยอดเพชรมีครบทั้งสี่องค์ เติมบารมีทุกอย่างที่ปรารถนา
ครั้นบัวพรหมชั้นที่สองเมื่อมองชม จะเห็นเทพพนมส่งมนต์อวยพรชัย ยามที่เรามองเห็นกราบไหว้ ท้าวเธอก็ให้พรพนมส่งเทพมนต์ ตามที่เราปรารถนาร้องขอขึ้นมา เหนืออีกชั้นทั้งสี่ทิศ ครั้นพิศ เลยบัวชั้นที่สอง ก็มองเห็นท้าวมหาพรหมบรมมหาเทวะ แผ่ทอดพระบารมีแห่งวิทยาเทพมนตรามหาพรหม คือ อันเต็มเปี่ยมด้วยความมีพระเมตตา พระกรุณา มุทิตาและอุเบกขา ครั้นเลยสุดเหนือเศียรพรหมก็บังเกิดเป็นองค์พระพุทธเพชรสุรินทร์ อันเป็นองรวมแห่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่แสงฉับพระรังสี สู่ทุกที่ทั่วพื้นปฐพี แลเมื่อ ปรารถนาขอพรนั้นๆ จักสำเร็จได้โดยพลันถ้ายิ่งเรามี"ศีลห้า"จะสัมฤทธิ์ผลสมความปรารถนาเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งได้รับการอธิษฐานจิตพุทธาภิเษกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมาเป็นปฐมวาระ 
ข้อมูลจากหนังสือ อัตชีวประวัติหลวงปู่ ผิดพลาดประการใดขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับ