พระกริ่งขุมทรัพย์ หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง

วัดและโรงเรียนเป็นของคู่กันมาตั้งแต่โบราณ สมัยก่อนผู้ปกครองดูแลวัดหรือเจ้าอาวาสสร้างโรงเรียนในเขตวัดขึ้น เพื่อเป็นสถานศึกษาอบรมสั่งสอนกุลบุตรกุลธิดาให้เป็นคนดีของสังคม ส่วนใหญ่จะได้ชื่อว่าสำเร็จการศึกษาเพราะ "ข้าวก้นบาตร"

"โรงเรียนวัดบางกุฎีทอง" ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี นำการสร้างโดย "พระครูปทุมธรรมานุสิฐ" หรือ "หลวงปู่สุรินทร์ เรวโต"อดีตเจ้าอาวาสวัดบางกุฎีทอง เมื่อปี 2507 ปัจจุบัน "หลวงพ่อชำนาญ" เจ้าอาวาสได้อุปถัมภ์ โรงเรียนแห่งนี้อย่างดี ทำรั้ว สร้างพระพุทธรูป สร้างหอประชุมอเนกประสงค์ ห้องน้ำ ห้องคอมพิวเตอร์ ตั้งวงปี่พาทย์กังวาลวรกิจ ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ฝึกซ้อมจนชนะประกวดระดับภาค เวลาว่างเด็กนักเรียนจะรับงานการกุศลต่างๆ เพื่อหาทุนการศึกษา ในวันพระได้จัดให้มีโครงการให้นักเรียนเข้าวัด อบรมศีลธรรม เป็นต้น

แต่ปัญหาของ "โรงเรียนวัดบางกุฎีทอง" คือ พื้นที่สนามโรงเรียนต่ำ เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำ เกิดจากการถมที่เพื่อสร้างถนนสายบางกะดีสายใน เป็นถนนที่วิ่งผ่านโรง เรียนทำให้พื้นสนามอยู่ต่ำ ปัญหาน้ำท่วมขังมีมาหลายปีแล้ว คณะครูได้นำปัญหาดังกล่าวมา กราบเรียนหลวงพ่อชำนาญ เพราะทนเห็นสนามเป็นแหล่งเพาะยุงก้นปล่อง ยุงลายไม่ไหว เด็กนักเรียนหลายคนโดน ยุงกัด ต้องไปหาหมอเป็นไข้เลือดออกหลายราย

หลวงพ่อชำนาญ ท่านจึงรับเป็นแม่งาน ระดมทุนถมดินให้โรงเรียน ด้วยการจัดสร้าง "มงคลวัตถุ" ขึ้นมารุ่นหนึ่ง เพื่อนำรายได้เพื่อการนี้ รูปแบบ "พระกริ่งขุมทรัพย์" และแผ่นยันต์จักรพัตรา ธิราช มอบสมนาคุณแก่เจ้าภาพที่บริจาคปัจจัยถมดิน พระกริ่ง รุ่นนี้ผสมชนวนมวลสารพระประธานก้นเบ้าที่ผสมทองคำ 1 กิโลกรัม เงิน 1 กิโลกรัม และยอดโลหะศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย นอกจากนั้น ยังมีทองคำ ที่มีลูกศิษย์ถวายอีก 20 บาท ชนวนมวลสารโลหะอาถรรพ์ขั้นเอกอุ ยอดโลหะมงคลอีกมากกว่า 200 กิโลกรัม

อาทิ กล้องยานัตถุ์ ทองคำ 1 กล้อง นาก 1 กล้อง ที่หลวงพ่อชำนาญเคยใช้, มวลสารของพระเจ้าคุณศรี (สนธิ์) วัดสุทัศน์, พระหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, หลวงปู่ทวดบัวรอบ, พระหล่อตำรับวัดสุทัศน์และวัดบวรนิเวศฯ, พระสังกัจจายน์ วัดประสาทบุญญาวาส, ชนวนพระเก่าพระกรุเนื้อชินเบญจภาคี, ยอดขุนพล, เบญจภาคีเหรียญ, เหรียญเก่า, พระกรุโลหะเก่าที่ชำรุดบางส่วนไม่เต็มองค์, หลวงพ่ออัญเชิญมาหล่อเป็นแท่ง, ปรอทเก่าของหลวงปู่สุรินทร์ ที่ออกหาปรอทกันริมแม่น้ำเจ้าพระยากับหลวงพ่อชำนาญนำมาหุงและปลุกเสกจนปรอทเดือดด้วยแสงตะวัน, เงินสตางค์รู สตางค์แดง ประมาณปี 2480-2485, เงินสตางค์หลังตราแผ่นดิน เฉพาะปี 2500, ขันสาครเนื้อสำริด 2 ใบ ที่หลวงพ่อชำนาญใช้ทำน้ำมนต์ประพรมลูกศิษย์ตอน เจิมรถ ซึ่งใช้ทำน้ำมนต์มา 10 ปีเต็ม, ตะกรุด 7 พานกับ 2 ถาด, ตะกรุดทุกดอกหลวงพ่อชำนาญลงจารอักขระเองทั้งหมด ใช้เวลาลงทั้งหมด 3 ปี ตะกรุดประมาณ 500 ดอก

"หลวงพ่อชำนาญ" กล่าวว่า เหตุที่เฉลิมพระนามว่าพระกริ่งขุมทรัพย์มีเหตุผล 3 อย่าง คือ 1.พระกริ่งขุมทรัพย์ เป็นองค์จำลองขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นสรรเพชุ ดาญาณ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน คลังแห่งบริสุทธิคุณ พระปัญญาคุณ พระกรุณาคุณ คลังแห่งโภค ทรัพย์ที่จักไหลมาจากจตุรทิศ ทรงเป็นประธานแห่งอริยทรัพย์ภายใน และอริยทรัพย์ภายนอก 2.ทองคำแท่ง หนัก 1 กิโลกรัม (66 บาทมูลค่าประมาณหนึ่งล้านห้าแสนบาท) เงินบริสุทธิ์ 1 กิโลกรัม ทองคำรูปพรรณสายสร้อยแหวนกำไล อีกจำนวนมากหนักประมาณ 20 บาท ชนวนพระเก่าพระกรุ ทองรูปพรรณเก่า เก็บตกทอดกันมา ทองดอกบวบ เข็มขัดนาก หัวเข็มขัดเงิน จำนวนมากที่หล่อเป็นชนวนก้นเบ้า โลหะมงคลเหล่านี้นี่แหละถือว่าเป็นขุมทรัพย์ ขุมสมบัติ 3.พระกริ่งขุมทรัพย์สร้างในวาระระดมทุนทรัพย์ถมดินโรงเรียน ที่สอนเด็กเยาวชนของชาติกว่า 500 ชีวิต ขุมปัญญา สร้างชาติถมดินนี้มีข้ามภพข้าม ชาติ แหล่งขุม ทรัพย์ปัญญา และขุมทรัพย์บุญกุศล

กำหนดจัดพิธีเททอง "พระกริ่งขุมทรัพย์" ณ หน้าโบสถ์ วัดบางกุฎีทอง ซึ่งที่หน้าบันมีดวงตราสุริยประภา และจันทรประภา ประกอบพิธีตามตำนานพระกริ่งโบราณ ในเวลา 09.59 น. วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม 2554 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 หลังจากเททองเสร็จสิ้น หลวงพ่อชำนาญ ทำพิธีทุบเบ้าอัญเชิญพระกริ่งทั้งช่อ ปลุกเสกภายในโบสถ์เป็นปฐมฤกษ์ เวลา 16.19 น. พระกริ่งขุมทรัพย์ มีหมายเลขกำกับทุกองค์ และแผ่นยันต์จักรพัตราธิราช 3 กษัตริย์ กำหนดปิดให้สั่งจองวัตถุมงคลวันที่ 5 สิงหาคม 2554 รับวัตถุมงคลวันที่ 15 กันยายน 2554 จากนั้นทางวัดบางกุฎีทอง จ.ปทุมธานี จะมอบพระกริ่งขุมทรัพย์ให้ท่านผู้มีจิตศรัทธาบริจาคดินถมที่ตั้งแต่ 2 คิวขึ้นไป ขอเชิญศิษยานุศิษย์ร่วมงานเททองพระกริ่งขุมทรัพย์ในวันและเวลาดัง

ข่าวพระเครื่อง จาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด