หมวดหมู่ | พระเกจิ คณาจารย์ ภาคกลาง |
ราคา | 3,500.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
อัพเดทล่าสุด | 18 ม.ค. 2566 |
จำนวน | ชิ้น |
พันธุ์แท้พระเครื่อง
ราม วัชรประดิษฐ์
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระอัครศาสนูปถัมภก และทรงเป็นพุทธมามกะ ดำเนินรอยตามสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาไว้โดยครบถ้วน …
ในปี พ.ศ.2508 ทรงมีพระราชดำริจัดสร้างพระพุทธรูป เพื่อพระราชทานเป็นพระประจำจังหวัดทั่วราชอาณาจักร โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ศาสตราจารย์ นายไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ นายช่างกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร ปั้นหุ่นพระพุทธรูป ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และทรงตรวจพระพุทธลักษณะด้วยพระองค์เองจนพอพระราชหฤทัยแล้ว จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้เททองหล่อพระพุทธรูป เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2509 พระราชทานพระนามว่า “พระพุทธนวราชบพิตร”
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 23 ซ.ม. สูง 40 ซ.ม. ที่บัวฐานด้านหน้าบรรจุพระพิมพ์ “พระสมเด็จจิตรลดา” ไว้องค์หนึ่ง ฐานขององค์พระมีอักขระบาลีจารึกไว้ว่า “ทยฺยชาติยา สามคฺคิยํ สติสญฺชานเนน โภชิสิยํ รกฺขนฺติ” แปลว่า คนชาติไทยจะรักษาความเป็นไทยอยู่ได้ ด้วยมีสติ สำนึกอยู่ในความสามัคคี
จากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “พระพุทธนวราชบพิตร” ให้เป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัด ประดิษฐาน ณ ศาลากลางจังหวัดของทุกจังหวัด และเป็นพระพุทธรูปประจำหน่วยทหาร ประดิษฐาน ณ กองบัญชาการหน่วยทหาร
สำนักพระราชวัง ประกาศระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับ “พระพุทธนวราชบพิตร” ไว้ดังนี้
1.เมื่อจังหวัดใดได้รับพระราชทานไปแล้ว ให้ประดิษฐานพระพุทธรูปนั้นไว้ ณ ที่อันควรในศาลากลางจังหวัด
2.เมื่อทางจังหวัดมีงานพิธีใดๆ ซึ่งต้องตั้งที่บูชาพระรัตนตรัย ก็ให้อัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรมาประดิษฐานเป็นพระบูชาในพิธีนั้นๆ ทั้งนี้ยกเว้นพิธีที่กระทำในโบสถ์ วิหาร หรือปูชนียสถานใดๆ ซึ่งมีพระประธานหรือมีปูชนียวัตถุอื่นใดเป็นประธานอยู่แล้ว และยกเว้นพิธีซึ่งต้องใช้พระพุทธรูปอื่นเป็นประธานโดยเฉพาะ เช่น พระพุทธคันธารราษฎร์
3.เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปยังจังหวัด เพื่อทรงเป็นประธานพระราชพิธีหรือพิธีทางจังหวัดก็ดี ก็ให้ทางจังหวัดอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรมาประดิษฐานเป็นพระประธานในพระราชพิธีและพิธีนั้นๆ ทุกครั้ง หากพระราชพิธีหรือพิธีนั้นๆ กระทำในพระอารามหรือในปูชนียสถาน ซึ่งมีพระประธานหรือปูชนียวัตถุอื่นใดเป็นประธานอยู่แล้ว ก็ให้อัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรไปประดิษฐาน ณ ที่บูชาเป็นต่างหากอีกที่หนึ่ง เพื่อทรงนมัสการ
4.เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ณ จังหวัด ให้ทางจังหวัดอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรไปประดิษฐานไว้ ณ ที่บูชา เพื่อทรงนมัสการในพลับพลาหรือที่ประทับซึ่งได้จัดไว้ ในกรณีนี้ หากท้องที่ที่เสด็จพระราชดำเนินนั้นห่างไกลจากศาลากลางจังหวัด และเป็นที่ทุรกันดารไม่สะดวกแก่การคมนาคม หรือการเสด็จพระราชดำเนินนั้นเป็นการรีบด่วน หรือเพียงเป็นการเสด็จพระราชดำเนินผ่าน ทางจังหวัดจะพิจารณาให้งดเสียก็ได้ ตามแต่จะเห็นควร
5.เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปประทับแรม ณ จังหวัด ให้ทางจังหวัดอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรมาประดิษฐานไว้ ณ ที่บูชา ในพลับพลา หรือในที่ประทับ ตลอดเวลาที่ประทับแรมอยู่ และให้อัญเชิญกลับไปยังศาลากลางจังหวัดเมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับแล้ว ในการนี้ ให้กองมหาดเล็กปฏิบัติเช่นเดียวกับระเบียบแบบแผนที่มีอยู่แล้วเกี่ยวกับพระชัยนวโลหะประจำรัชกาล
6.หากทางจังหวัดเห็นสมควรจะอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรออกให้ประชาชนได้นมัสการบูชาในงานเทศกาลใดๆ ก็ให้กระทำได้ตามแต่จะเห็นควร อนึ่ง การปิดทองที่องค์พระพุทธรูปนั้น อาจทำให้พระพุทธรูปเสียความงามไปบ้าง ถ้าหากทางจังหวัดจะประดิษ ฐานพระพุทธนวราชบพิตรบนฐานซึ่งทำด้วยวัตถุอันอาจปิดทองได้อีกชั้นหนึ่งให้ประชาชนได้ปิดทองได้ ก็จะเป็นการเหมาะสมยิ่งขึ้น
จังหวัดแรกที่ได้รับพระมหากรุณาฯพระราชทาน “พระพุทธนวราชบพิตร” คือ จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2510 ในโอกาสนั้น ทรงมีพระราชดำรัสแก่ชาวจังหวัดหนองคาย มีความสำคัญที่ขอเชิญมาเฉพาะบางตอน ดังนี้
“…ข้าพเจ้ามาเยี่ยมท่านคราวนี้ ได้นำพระพุทธนวราชบพิตรมามอบให้ด้วย พระพุทธรูปองค์นี้ข้าพเจ้าสร้างขึ้นเพื่อมอบไว้เป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัด ที่ฐานบัวหงายข้าพเจ้าได้บรรจุพระพิมพ์องค์หนึ่ง ซึ่งทำขึ้นด้วยผงศักดิ์สิทธิ์ อันได้มาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร …
…พระพุทธนวราชบพิตรองค์นี้ นอกจากจะถือว่าเป็นนิมิตหมายแห่งคุณพระรัตนตรัย อันเป็นที่เคารพสูงสุดแล้ว ข้าพเจ้ายังถือเสมือนเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประเทศไทย และความสามัคคีกลมเกลียวกันของประชาชนชาวไทยอีกด้วย ข้าพเจ้าจึงได้บรรจุพระพิมพ์ที่ทำขึ้นด้วยผงศักดิ์สิทธิ์ทั่วราชอาณาจักรดังกล่าว และนำมามอบให้แก่ท่านด้วยตนเอง…
ขออานุภาพแห่งพระพุทธนวราชบพิตร จงปกปักรักษาท่านให้พ้นจากทุกข์ภัยทุกๆ ประการ บันดาลให้เกิดความสุขสวัสดี มีความก้าวหน้ารุ่งเรืองในการประกอบอาชีพ และมีความสมัครสมานกัน ในอันที่จะร่วมกันสร้างเสริมความมั่นคง และความเจริญก้าวหน้าให้แก่บ้านเมืองของเราสืบไป”
พระพุทธนวราชบพิตร นอกจากจะเป็นนิมิตหมายแห่งคุณพระรัตนตรัย อันเป็นที่เคารพบูชาสูงสุดของพุทธศาสนิกชนแล้ว ยังเป็นนิมิตหมายแห่งความผูกพัน ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ระหว่างพระมหากษัตราธิราชกับบรรดาพสกนิกรของพระองค์ ในทุกจังหวัดทั่วพระราชอาณาจักรอีกด้วย
ปี พ.ศ.2554 อันเป็นปีมหามงคลที่ในหลวง ร.9 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา คณะสงฆ์วัดตรีทศเทพและพสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างมีความปลาบปลื้มปีติและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น พร้อมทั้ง “พระอุโบสถ” ก็แล้วเสร็จสมบูรณ์ สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศน์วิหาร รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพขณะนั้น ได้ขอพระราชทานสร้าง “เหรียญและพระพิมพ์พระพุทธนวราชบพิตร” โดยจำลองแบบจากพระประธานในพระอุโบสถ เพื่อมอบแก่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมกิจในการสร้างพระอุโบสถและยกช่อฟ้า โดยพระพิมพ์ส่วนหนึ่งจะนำบรรจุไว้ในพระเจดีย์วัดตรีทศเทพ เป็นมรดกของแผ่นดินเพื่อชนรุ่นหลัง
ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาต และให้อัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธย ภปร. ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ ประดิษฐานด้านหลังเหรียญกับพระพิมพ์ และโปรดพระราชทานไฟพระฤกษ์ เพื่อจุดเทียนชัยมหามงคล ในพิธีมหาพุทธาภิเษกซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 โดย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต เชิญไฟพระฤกษ์พระราชทานจุดเทียนชัย พร้อมพระเกจิชื่อดังเข้าร่วมมากมาย อาทิ สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทร์, พระพรหมสุธี วัดสระเกศ, พระธรรมวิมลมุนี วัดพระเชตุพนฯ, พระธรรมธีรราชมหามุนี วัดระฆังฯ, พระเทพภาวนาวิกรม วัดไตรมิตร, หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว ฯลฯ สำหรับพิธียกช่อฟ้าในที่ 18 เมษายน พ.ศ.2554 นั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ เป็นองค์ประธาน
ณ มงคลฤกษ์ วัดตรีทศเทพ เสก “พุทธนวราชบพิตร” ฟ้าเปิดช่อง ...ให้เทพรับมงคลพิธี
ช่วงเวลาที่จัด ‘มงคลพิธี’ ได้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติขึ้นหลายครั้งหลายคราเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ตั้งแต่เช้าซึ่งเกิดฝนหลงฤดูตกอย่างแรง พอเริ่มบวงสรวงเทพยดา ฟ้าก็สว่างโร่ เปิดช่องให้เทพเทวาผู้สร้างศาสนสถานแห่งนี้ซึ่งสถิตบนสรวงสวรรค์ ได้รับทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณของ ‘กษัตริย์แห่งแผ่นดินสยาม’ ที่ได้แผ่พลังบารมีให้วัดตรีทศเทพมีพระอุโบสถอันวิจิตรงดงามเยี่ยงนี้
เครดิต ข้อมูลและภาพจาก
ผู้ชมทั้งหมด | 1,115,931 ครั้ง |
เปิดร้าน | 21 พ.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |