พระพรหมเปิดโลกหลังยันต์นะหน้าทอง (Pra Prom)

 ไหว้ครูเป่ายันต์พรหมสี่หน้าครั้งที่ 6 และเททองหล่อพระพรหมขนาด 32 นิ้ว วันวิสาขบูชาที่ 12 พ.ค. 49 
เวลา 09.00-12.00 น. หลวงพ่อชำนาญ อุตฺตมปญฺโญ วัดบางกุฏีทอง พระผู้เป็นยิ่งกว่าพ่อของศิษย์

               เป่ายันต์พรหมสี่หน้า หรือแก้ว 4 ดวง มีอานุภาพที่จะเกิดกับผู้เข้าพิธี 4 อย่าง
               1. สุดยอดเมตตามหานิยมแก่ตัวเองเป็นเมตตาบริสุทธิ์แรงกว่าเครื่องรางใดๆ ตามหลักพรหมวิหารธรรม
               2. แคล้วคลาดจากภัยทั้งปวง
               3. เจริญก้าวหน้าเปิดความคิดสติปัญญา สำเร็จสมหวังดั่งที่อธิษฐาน ตอนเข้าพิธี
               4. เกื้อหนุนดวงชะตาได้ชะงัดนัก ดวงดับดวงไม่ดีแก้ได้พร้อมทั้งโรคเวทภัย อันเกิดจากดวง

               ผู้ที่รู้จริงและศึกษาวิชาไสยศาสตร์มาบ้างหรือพอจะมอง "ทางใน" ออกต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พิธีเป่ายันต์
พรหมสี่หน้านั้น "ดี" และ "สำคัญ" อย่างไร พิธีนี้จัดขึ้นเป็นพิธีจริงเป็นการเป่ายันต์จริงแท้ ที่เคยปรากฏมาแล้ว เป็นพิธีที่รวม
เอามหาอนุภาพในสากลจักรวาลตามหลักไตรภูมิ เพื่อทำพิธีนี้โดยเฉพาะพิธีนี้ท่านที่เข้าร่วมพิธี และทำตามที่หลวงพ่อสั่งสอน
จะมี "พระพรหม" คุ้มหัวอยู่ จะทำอะไรก็ "เจริญ" จะประกอบกิจการใดๆ ก็ "สำเร็จ" มุ่งหมายประการใดก็จะ "สมหวัง" ไม่มี
ตกต่ำย่ำแย่เลวลงกว่าเดิม เชิญมาพิสูจน์ความจริงกัน ท้าให้มาทดลองที่สำคัญท่านต้องเคารพเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยอย่างสูง
สุดและมีศีล 5 ประจำใจท่านจะได้ดังนี้ ไม่พลาดแน่!!!

               (ขอยกข้อความของอาจารย์ สมโภชน์ สุจริตธรรม ผู้ได้มโนยิทธิลงในนะโม วันที่ 25 พ.ค. 2548 มาบอกกล่าว)
               "ในพิธีเป่ายันต์พอหลวงพ่อลง และพราหมณ์ตั้งนะโมอ่านโองการชุมนุมเทวดาเท่านั้น ผู้ได้มโนยิทธินั่งใช้จิตดู
เห็นพระพรหมมานั่งล้อมพิธีอยู่ทั้งหมดถัดจากชั้นพราหมณ์ไปเป็นเทวดามากันทุกชั้นจะทั่วจักรวาลอย่างที่คนอื่นเขาเขียนหรือ
เปล่าอันนี้ไม่รู้ และสูงขึ้นไปด้านบนจะมีพระอริยเจ้านั่งกันอยู่เป็นชั้นๆ เหมือนยอดฉัตร มีครูพระทั้ง 5 องค์ของหลวงพ่อนั่ง
ล้อมรอบท่านอยู่ยอดบนสุดของฉัตรเป็นพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ามาหลายองค์ แต่ที่นั่งเป็นประธานสูงสุดคือ "องค์
ปฐม" องค์ปัจจุบันนั่งด้านหน้า ขณะที่หลวงพ่อเริ่มเป่า, พระพรหมท่านจะเขยิบเข้ามาอยู่เหนือหัวของผู้เข้าพิธีทุกคน ดูแล้ว
อัศจรรย์มากเมื่อจบพิธีแล้วให้ดูหน้าผากผู้เข้าพิธีจะเป็นสีทอง ไปถึงกระหม่อมสุกสว่างมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับบุญบารมีกุศล
ของคนนั้น แต่ที่ไม่มีสีทองเลยยังมองไม่เห็นฯ"

                                       พระพรหมเปิดโลกหลังยันต์นะหน้าทอง

               หลวงพ่อได้สร้าง พระพรหมเปิดโลกขึ้นเพื่อแจกฟรี ฟรี แต่ลูกศิษย์ของท่านที่เข้าร่วมพิธีเป่ายันต์พรหมสี่หน้า
ครั้งที่ 6 ประจำปี 2549 ตรงกับวันวิสาขบูชาที่ 12 พฤษภาคม 2549 รูปแบบองค์พระ ด้านหน้าเป็นรูปหน้าพระพรหมครึ่ง
องค์ ปั้นหน้ายกสูงเป็นแบบ 3 มิติ ช่างปั้นได้ให้อารมณ์ที่แฝงไว้ทางเมตตาที่กำลังดูผ่านๆ จะมองเหมือนท่านมีชีวิตจริงๆ ด้าน
ซ้าย - ขวา จะจารึกยันต์มอญไว้ทั้ง 2 ข้าง มองพระพรหมองค์นี้แล้ว เหมือนท่านลอยออกมาได้
               ด้านหลังเป็นยันต์ "นะหน้าทอง" แต่ถอดมาเป็น "มอญ" เป็นยันต์ที่สวยดูแปลกตามีข้อความภาษาไทยอ่านได้
ความว่า "สร้างโลกช่วยลูก สำเร็จสมปรารถนา" ซึ่งเป็นคุณธรรมของพระพรหมที่ค้ำจุนอุดหนุนศิษย์ของหลวงพ่อ
               อานุภาพยันต์นะหน้าทอง ยันต์นะหน้าทองเป็นยันต์ทางเมตตาครอบจักรวาลบทใหญ่และเป็นยันต์เมตตาองค์ต้น
ของตำราไสยศาสตร์ยันต์นี้มีอานุภาพทางด้านเมตตามหานิยมสูงส่งสบหน้าใครไม่รักไม่เมตตาไม่ถูกใจเป็นไม่มี ยันต์นี้มีติดตัว
ผู้ใด ปลุกให้ดีจิตมีสมาธิมั่นเดินไปหาใครไปทิศไหน คนทั่วไปเห็นอกเห็นใจ รักเมตตาปราณี ดุจลูกในอุทรภัยอันตรายเข้ามา
ใกล้ไม่ได้ ใครเห็นหน้ายินดีช่วยเหลือเกื้อการุณใจอ่อนยอมตามคำของเราทุกประการแลฯ

               พระพรหมเปิดโลกหลังยันต์นะหน้าทองเนื้อว่านตัวมนุษย์
               เมื่อหลวงพ่อดำริที่จะสร้างพระผงพรหมเปิดโลก หลังยันต์นะหน้าทองขึ้นท่านได้ปลุกเสกหัวว่านสำคัญๆ ไว้ 1
ถาด ท่านทำน้ำมนต์รดว่านเหล่านั้นทุกวันตลอด 1 พรรษา หรือ 3 เดือน ท่านเลี้ยงว่านด้วยน้ำมนต์จนว่านที่ใส่ในถาด "ออกดอก
งอกตา" แทบทั้งถาดจากนั้นท่านได้เสกผงซัดเข้าไปในว่านเหล่านั้น ทำกรรมวิธีอย่างเคร่งครัดตลอดมาจนปลายเดือนเมษายน
สรงน้ำท่านแล้วท่านได้เลือกว่านที่ท่านเลี้ยงไว้ในถาดนำมาบดทำผงว่านสร้างพระพรหมเปิดโลก ซึ่งเป็นความรอบคอบและ
ละเอียดละออในการสร้างพระของท่าน
               และที่สำคัญก่อนจะบดว่านที่ท่านเลือกจากถาดที่เลี้ยงไว้ ท่านได้เดิดเข้าไปในกุฏิของท่านหยิบว่านมาให้ 1 หัว
พอท่านยื่นให้ทุกคนก็แปลกใจว่าว่านนี้เป็นว่านอะไรรูปทรงแปลกๆ ลักษณะ (ดังที่ถ่ายรูปมาให้ชม) เป็นตัวมนุษย์มีร่างกาย มีหัว
มีแขน 2 ข้าง มีขา 2 ข้าง และปลายของแขน ขา มีตางอกออกมาด้วย แสดงว่าว่านหัวนี้ยังไม่ตายเป็นว่านเป็น หลวงพ่อบอกว่า
"ว่านมนุษย์" ว่านนี้เหมือนคนมีอาการครบ เวลาจะบดว่านหัวนี้ให้จุดธูป 16 ดอก ปักที่ว่านมนุษย์นี้ และบอกท่านด้วยช่างได้ทำ
ตามในวันพฤหัสที่ 27 เมษาตรงกับวันพระ ได้ทำการบดว่านหัวนี้ ปรากฏยางว่านเป็นสีแดงเข้มคล้ายเลือดคนมีกลิ่นฉุน หลวง
พ่อพูดถึงว่านมนุษย์นี้ว่าเหมือน "พราย" หรือ "ผี" แต่เป็นพลังขาวไม่ให้โทษช่วยคนอย่างเดียว เวลาผสมทำพระจะแรงเหมือน
ใส่กระดูกอาถรรพณ์ลงไป ขออะไรบนบอกอะไรจะเร็วมาก ว่านมนุษย์นี้ถ้าทำดีๆ เสกถึงๆ จะแรงโบราณเขาจะทำเป็นส่วนผสม
ของพระเครื่องที่เป็นรูปเทพอย่างพระพรหมนี้เหมาะเลย ทำให้พระพรหมองค์นี้แรงและขลังมากๆ เชื่อว่าสื่อถึงองค์พระพรหม
ได้ถึงและเร็ว 
               นอกจากว่านสำคัญที่หลวงพ่อเลี้ยงไว้ทำพระพรหมที่กล่าวไปแล้ว ท่านได้เก็บเถ้าธูปที่ท่านจุดบูชาพระและทำพิธี
ต่างๆ เชื่อช่วยลูกศิษย์ของท่านได้จำนวนหนึ่งโหลมาผสมทำพระพรหมเปิดโลกด้วย ท่านบอกถึงคุณของผงเถ้าธูปว่า เป็นผง
มวลสารที่เกิดจากการบูชาคุณพระรัตนตรัย เทพพรหมต่างๆ ตลอดจนครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อทุกองค์ และผงปัถมังอีก 1
โหล นอกจากนี้ยังมีผงสำคัญที่ท่านปลุกเสกเตรียมไว้อีกจำนวนมาก สรุปรวมความว่า พระพรหมเปิดโลกนี้คัดสรรแต่มวลสาร
ชั้นยอด และเข้มข้นในทุกขั้นตอนก่อนมาเป็นองค์พระ