พระกริ่งเจริญพร ๖ รอบ

หลวงพ่อจื่อเป็นพระนักปฏิบัติ นักพัฒนา ซึ่งชาวอำเภอหนองบัวระเหวให้ความเคารพศรัทธาอย่างยิ่ง ท่านเป็นผู้เปี่ยมไปด้วยบารมีได้สร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมมากมาย

หลวงพ่อผาง จิตตคุตโต ท่านเป็นหนึ่งในศิษย์สายพระป่า “พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต” ที่บรรดาศิษย์ ผู้เลื่อมใส และวัดวาอารามต่าง ๆ ขอความเมตตาจากท่านสร้างวัตถุมงคลต่าง ๆ ไว้มากมายกว่า ๕๐ รุ่น หนึ่งในนั้นคือ “พระกริ่งปัญจาคีรี” ปี ๒๕๑๙ ซึ่งมีจำนวนการสร้างเท่าปีพ.ศ. คือประมาณ ๒๕๑๙ องค์เท่านั้น ปัจจุบันได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมอย่างมาก เนื้อทองคำสภาพสวย ๆ สมบูรณ์ กล้าสู้กันถึง “หลักล้าน” เนื้อเงินอยู่ที่หลักแสนต้น ๆ ส่วนเนื้อนวโลหะอยู่ที่หลักหมื่นกลาง ๆ

มูลเหตุแห่งความนิยมใน “พระกริ่งปัญจาคีรี” เกิดจากพุทธศิลป์ที่งดงามและความมั่นใจในพุทธคุณที่ได้รับการอธิษฐานจิตปลุกเสกโดยหลวงปู่ผางและสุดยอดพระคณาจารย์แดนอีสาน สายพระป่าอีก ๘ รูป ประกอบด้วย หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดหนองบัวบาน จ.อุดรธานี, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย, พระอาจารย์จวน กุลเชษโฐ วัดภูทอก จ.หนองคาย, หลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาเป้ง จ.เลย, หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ จ.เลย, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ จ.เลย และหลวงปู่มหาโส กัสสโป วัดป่าคำแคนเหนือ จ.ขอนแก่น

หลวงปู่ผางมรณภาพเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๒๘ สิริอายุได้ ๘๑ ปี ปัจจุบันมีศิษย์สายตรงที่สืบทอดวิชาจากหลวงปู่ผางคือ “หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต” (พระครูวิมลภาวนาคุณ) เจ้าอาวาสวัดเขาตาเงาะอุดมพร ต.หนองบัวระเหว อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ พระสงฆ์สายวิปัสสนา อายุ ๗๒ ปี พรรษา ๓๘ท่านถือกำเนิดมาในตระกูลยากจนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ มิ.ย. ๒๔๘๖ ที่บ้าน ต.บ้านกอก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ บิดาเป็นคนเชื้อสายจีนชื่อนายฮอ แซ่จึง มารดาเป็นคนไทยชื่อ นางพี เฉลียวดี ท่านได้รับการศึกษาเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ก็ต้องออกมาช่วยที่บ้านทำงาน ด้วยเหตุที่มีฝีมือในทางเย็บผ้า เมื่อโตขึ้นจึงรับจ้างเย็บผ้าหาเลี้ยงชีพ โดยเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ที่ร้านก่อเกียรติ ซึ่งเป็นร้านตัดผ้าชั้นนำในเมืองกรุงสมัยนั้น

ภายหลังได้กลับไปทำงานที่ขอนแก่น เกิดความเบื่อหน่ายทางโลกจึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๕ พ.ย. ๒๕๑๘ ที่วัดศรีแก้งคร้อ ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ พระอุปัชฌาย์คือ พระโพธิญาณมุนี

หลวงพ่อจื่อเป็นพระนักปฏิบัติ นักพัฒนา ซึ่งชาวอำเภอหนองบัวระเหวให้ความเคารพศรัทธาอย่างยิ่ง ท่านเป็นผู้เปี่ยมไปด้วยบารมีได้สร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมมากมาย ทั้งถนน ฝายกักเก็บน้ำ ทั้งนี้ มีเรื่องที่สื่อให้เห็นถึงอิทธิบารมีคือเมื่อท่านสร้างฝายเก็บน้ำ ๒ แห่ง พอถึงช่วงฤดูฝนฝายเกิดร้าว ถึงขนาดนายอำเภอต้องซ้อมแผนอพยพชาวบ้านที่อยู่ใต้ฝาย ท่านไดัไปดูและเอาเท้าเหยียบเหนือรอยร้าว ๓ ครั้ง ปรากฏว่าฝายทั้ง ๒ แห่งยังแข็งแรงทนทานอยู่จนถึงทุกวันนี้ สร้างความฮือฮาอย่างมาก

วัตถุมงคลหลวงปู่จื่อเป็นที่เลื่องลือในพุทธานุภาพ และได้รับความนิยมทุกรุ่น ล่าสุด ในโอกาสเจริญอายุวัฒนะมงคล ๗๒ ปี ท่านดำริให้จัดสร้าง “พระกริ่งเจริญพร ๖ รอบ” เพื่อนำรายได้ร่วมสมทบทุนสร้างโบสถ์ ศาลา เจดีย์วัดเขาตาเงาะอุดมพร โดยถอดพิมพ์มาจาก “พระกริ่งปัญจาคีรี” พระยอดนิยมของ “หลวงปู่ผาง” ผู้เป็นพระอาจารย์ โดยเน้นพุทธศิลป์ให้งดงามดั่งองค์ต้นแบบ มีความคม เม็ดพระศกที่ไม่นูนเหมือนพระกริ่งรุ่นอื่น ๆ จะออกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

ส่วนเนื้อพระก็เน้นชนวนมวลสารเก่าเป็นหลัก โดยผสมชนวนมวลสารจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังมากมาย รวมทั้งชนวนมวลสาร “เหรียญรุ่นดังเจ้าสัวอีสาน” ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ ณ มณฑลพิธีวัดพระธาตุพนม จ.นครพนมด้วย

“พระกริ่งเจริญพร ๖ รอบ” สร้างเนื้อทองคำ (น้ำหนักประมาณ ๓๘ กรัม) ตามจำนวนสั่งจอง นอกจากนี้ยังมีเนื้อเงินก้นทองคำ เนื้อเงินเนื้อนวะก้นทองคำ เนื้อนวะก้นเงินเนื้อนวะ เนื้อทองทิพย์เปียกทอง เนื้อทองแดงเถื่อนหรือทองแดงโบราณ นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษที่มีการจัดสร้างเนื้อทองแดงเถื่อนโบราณซึ่งน้อยคนนักที่มีความรู้และจะทำเนื้อแบบนี้ออกมาได้ โดยเนื้อที่ทำจะคล้ายกับเนื้อเหรียญเจ้าสัวหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม

เช่นเดียวกับเนื้อทองทิพย์เปียกทอง จะมีความงดงามด้วยกรรมวิธีการเปียกทองซึ่งเป็นศิลป์เชิงช่างชั้นสูง มีเสน่ห์มาแต่โบราณ ทำยาก แต่มีคุณค่ามากกว่ากะไหล่ทองแบบสมัยใหม่ และส่วนมากจะใช้ทองคำแท้ ๆ คณะจัดสร้างท่านหนึ่งกล่าวว่า “พระกริ่งเจริญพร ๖ รอบ” สภาพเดิมผิวเดิมจากเบ้า แต่ถ้าผ่านการใช้รับรองว่าสวยต้องตาตรึงใจแน่นอน เพราะเน้นความสวยคลาสสิกแบบโบราณประยุกต์ความสวยงามของปัจจุบันตามที่หลวงปู่จื่อท่านชอบ

ทั้งนี้ หลวงปู่จื่อจะทำพิธีปิดโบสถ์ปลุกเสกเดี่ยวอย่างเข้มขลังในช่วงบ่ายของวันที่ ๒๒ พ.ย.๒๕๕๗ นี้โดยก่อนหน้านั้นในวันที่ ๒๑ พ.ย. ๒๕๕๗ ท่านจะนำพระกริ่งทั้งหมดไปให้หลวงปู่มหาโส กัสสโป อธิษฐานจิตที่วัดป่าคำแคนเหนือตามความประสงค์ที่คิดไว้ เนื่องจากหลวงปู่โส เป็นหนึ่งในครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพนับถือ

สำหรับวัตถุมงคลประเภท “พระกริ่ง” นับว่ามีกระแสความนิยมอยู่ตลอด ตามความเชื่อที่ว่าเป็นพระเนื้อโลหะที่มีความคงทนและมีพุทธคุณหลากหลาย