พระผงขุนแผนบายน (กรรมการ) เนื้อผงว่านพุทธคุณ ตะกรุดทองคำ รุ่นสมโภชพระ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน(วัดเพชรบุรี) จ.สุรินทร์ ปี 2547

องค์นี้เป็นชุดพิเศษ แจกกรรมการ เนื้อผงว่านพุทธคุณ ตะกรุดทองคำ+เหรียญหยดน้ำมนต์ทองแดง และตอกโค้ด"นะ เม ติ"

พระผงขุนแผนบายน รุ่นสมโภชพระ ปี 2547
ถือเป็นการสร้างขุนแผนรุ่นที่ 2 ในนามกองทุนปลูกป่าหลวงปู่หงษ์ อันสืบเนื่องมาจากขุนแผนรุ่นแรกคือ ขุนแผนชัยวรมันเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์เป็นอย่างมาก จนทำให้เป็นของหายากและมีค่านิยมสูง
กองทุนปลุกป่าฯ จึงได้กราบเรียนหลวงปู่หงษ์เพื่อจัดสร้างพระขุนแผนรุ่นที่ 2 ออกให้บูชา
โดยการรวบรวมมวลสารที่เหลือจากการสร้างพระทุกรุ่นนำมารวมกับผงว่านทางเมตตาต่างๆอีกมากมาย ใช้เวลารวบรวมกว่า 2 ปี จึงได้ดำเนินการจัดสร้าง

........ขุนแผนบายน........

" พุทธศิลป์ งามดี พิธีเลิศ

มวลสารเจิด จำรัส รัศมี

มหาเสน่ห์ เมตตา เจ้าพาที

นามขุนแผน ยอดดี แห่งศรัทธา "

ขุนแผนบายน

เนื้อผงโขลกกดพิมพ์มือกรรมการตะกรุดทองคำ 1 ดอกหลังฝังเม็ดกระดุม

ขุนแผนบายน ถือเป็นการสร้างขุนแผนรุ่นที่ 2 ในนามกองทุนปลูกป่าหลวงปู่หงษ์ อันสืบเนื่องมาจากขุนแผนรุ่นแรกคือ ขุนแผนชัยวรมันเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์เป็นอย่างมาก จนทำให้เป็นของหายากและมีค่านิยมสูง กองทุนปลุกป่าฯ จึงได้กราบเรียนหลวงปู่หงษ์เพื่อจัดสร้างพระขุนแผนรุ่นที่ 2 ออกให้บูชา โดยการรวบรวมมวลสาร ที่เหลือจากการสร้างพระทุกรุ่นนำมารวมกับผงว่านทางเมตตาต่างๆอีกมากมาย ใช้เวลารวบรวมกว่า 2 ปี จึงได้ดำเนินการจัดสร้าง มวลสารที่นำมาสร้างขุนแผนบายนมีดังนี้

1.ผงขุนแผนชัยวรมัน

2.ว่าน108 เกษร108

3.ดิน7นคร9บุรี

4.ผงเทพประทาน

5.ชานหมากคำภาวนา

6.ผงดินรวย

7.ผงปัถมัง,อธิเจ

8.มหาราช

9.ดินโปร่ง9โปร่ง

ขุนแผนบายนที่ออกแบบได้งดงามลงตัวเป็นเอกลักษณ์ มีประสบการณ์ และต่อไปจะหายากเหมือนขุนแผนชัยวรมัน เหมือนคำที่หลวงปู่ท่านชอบกล่าวให้ลูกศิษย์ฟังว่า"วัตถุมงคลของท่านอีกหน่อยจะพลิกแผ่นดินหาก็หาไม่เจอ" เนื่องจากผู้มีไว้ครอบครองต่างหวงแหน เพราะช่วยชีวิตเขาได้ให้เงินเท่าไรเขาก็ไม่ขาย

.......คำว่า"บายน" มีความหมายมาจากการจำหลักพระพักตร์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ลงในองค์พระขุนแผน จึงออกมาเป็น "ขุนแผนบายน"

ที่มาของคำว่า "บายน"

ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นี่เองความเจริญรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนาแบบมันตรยานกำลังก่อตัวและเจริญ อย่างสูงสุดเพราะเป็นศาสนาที่มีการบำเพ็ญสมณะธรรมและมีหลักธรรมอันลึกซึ้งเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับลัทธิโยคี ที่ตนนับถืออยู่ แต่ดีกว่าลัทธิพราหมณ์ตรงที่ไม่มีการบูชายัญ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีพระราชศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งพระองค์ทรงนับถือในคติพระโพธิสัตว์ตามแนวมันตรยาน ที่นับถือองค์อวโลกิเตศวร พระองค์มีความเชื่อว่าพระองค์คือองค์อวตารของพระอวโลกิเตศวรเจ้า  ทั้งนี้จึงเกิดแรงบันดาลใจให้พระองค์จำหลักหน้าพระองค์เองไว้ตามปรางค์ ปราสาทต่างๆ เรียกหน้าแบบ “บายน”  ทุกครั้งไป การสร้างจำหลักพระพักตร์ของพระองค์ไปทุกๆทิศเป็นไปตามคติที่ว่าองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทรงเป็นผู้มองสรรพสัตว์และเงี่ยหูฟังสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วยปรารถนาจะสงเคราะห์ช่วยเหลือเหล่าสรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงโดยเฉพาะทุกข์แห่งการเวียนว่ายตายเกิดนั้นแล