ตะกรุดนารายณ์พลิกแผ่นดิน หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ หายากสร้างน้อย พุทธคุณ108 อนุ ภาพของตะกรุดดอกนี้ คนร้ายที่กำลังใช้ปืนจ่อใส่พลเมืองดีคนหนึ่งปรากฏว่าขณะจะลั่นไกปืน อยู่ๆคนร้ายมือไม้อ่อนปืนตก แล้วนั่งคุกเข่าร้องไห้ อันนี้เป้นแค่ 1ในร้อยในพัน ของประสบการณ์ของตะกรุดของหลวงปู่หงษ์ครับ ท่านเป็นเจ้าของฉายาเทพเจ้าแห่งสุรินทร์

ตะกรุดนี้ทำจากเสื่อไม้ไผ่ที่หลวงปู่ใช้งาน เพื่อ สวดมนต์ เจริญภาวนา พระคาถาไม่รู้กี่หมื่นบท ตลอดระยะเวลาหลายปี กับทั้งท่านต้องใช้เสื้อผืนนี้เพื่อนั่งทำพิธีพุทธาภิเษกเพื่อปลุกเสกวัตถุ ต่าง ๆ นานถึง 7 ปี โดยทำพิธีพุทธาภิเษกนี้จะมีขึ้นปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ดังนั้นเสื่อผืนนี้จึงเปรียบเสมือนของประจำกายหลวงปู่เลยทีเดียว

โดยในปีที่ผ่านมาหลวงปู่เห็นว่าเสื่อผืนนี้ได้ถูกใช้เพื่อปฏิบัติธรรมและใช้ ทางไสยเวทย์มาเป็นเวลาพอสมควร จึงได้นำเสื่อผืนนี้ มาจารถักเชือก ลงรักปิดทอง กลายเป็นตะกรุดขนาด 1.5 นิ้ว แล้วสวดอัดพลังพุทธคุณวิชานารายณ์พลิกแผ่นดินลงในตะกรุดนั่นเพื่อให้มี อานุภาพมากขึ้น และศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น เป็นการปลุกเสกที่กินเวลานานถึง 1ปีเต็ม จนกลายเป็นตะกรุดนารายณ์พลิกแผ่นดิน อานุภาพแรงตามต้นตำรับวิชาสายเขมร ที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดีว่าแรงแค่ไหน ทำให้ตะกรุดดอกนี้มีพุทธคุณทางเมตตาแคล้วคลาดสูง ป้องอุบัติเหตุเพศภัยต่าง ๆ ได้ หากเกิดเหตุเพศภัย ที่ใกล้จะถึงตัวจะแคล้วคลาดปลอดภัย หากใครคิดมิดีมิร้ายแก่ผุ้ครอบครองตะกรุดนี้ จะพลิกสิ่งร้ายกลับกลายเป็นดี และสิ่งร้าย ๆ นั้นจะสะท้อนย้อนกลับเข้าตัวผู้นั้นเอง ที่สำคัญสามารถคุ้มครองป้องกันคุณไสยเป็นอย่างดี แก้อาถรรพ์อุบาทว์นานับประการ ป้องกันภูตผีปีศาจ ไสยศาสตร์ที่มองไม่เห็น ได้ แต่ผู้ครอบครองห้ามผิดศีลข้อ 5 และต้องกตัญญูต่อบิดามารดาด้วย

ตะกรุดนารายณ์พลิกแผ่นดินของหลวงปู่หงษ์สร้างน้อยหายากเพราะเสื่อของหลวงปู่ ผืนเล็กมาก จึงทำได้น้อยทำให้ตะกรุดดอกนี้สร้างได้น้อย ไม่พอแก่ลูกศิษย์ลูกหาที่ต้องการนำไปบูชา และก็หายากมาก ๆ ในขณะนี้ เพราะหมดจากวัดนานแล้ว ตะกรุดดอกนี้ขนาด 1.5 นิ้ว (พร้อมใบคาถา)

ประสบการณ์ตะกรุด

เรื่องที่1 ครูจุ่นศิษย์เก่าแก่ของหลวงปู่ใด้มาบูชาตะกรุดของหลวงปู่เอาใว้คุ้มครองตัว เองเพราะสมัยนั้นโจรเยอะมาก และทางที่ไปสอนหนังสือเด็กเปลี่ยวและไกล วันหนึ่งใด้มีโจร5คนดักรอครูจุ่นกลางทางเพื่อจะทำอันตรายและชิงทรัพย์ เมื่อครูจุ่นเห็นโจรก็ตกใจมาก โจร5คนใด้เอาใม้และหินจะทุบครูจุ่น ให้ตายด้วยอานุภาพของตะกรุดบันดาลให้โจรยกใม้และหินใม่ขึ้น และเป็นจังงัง เมื่อครูจุ่นเห็นโจรทำอะใรตัวเองใม่ใด้ก็เลยหนีไปจากกลุ่มโจรนั้น

เรื่องที่2 คนบ้านตายอก อยู่อ.ท่าตูมมีอาชีพขายเสื้อผ้าวันหนึ่งใด้หาบเสื้อผ้าไปขาย ได้มีโจรดักปล้น แต่โจรก็ทำอันตรายใม่ใด้ แกตกใจจนฟ้าเหลืองหมด(อาการคนฟ้าเหลืองหลวงปุ่ใด้อธิบายว่ามองอะใรใม่เห็น สักอย่างเห้นแต่ฟ้าเหลือง)เดินผ่านมา5สะพานใม่เห็นอะใรเลยเห็นแต่ฟ้า เหลืองๆๆเดินบนสะพานก้ใม่ดกน้ำ จนหายตกใจเสื้อผ้าก็อยู่ครบเงินก็ครบ

เรื่องที่3 ศิษย์ผู้ชายคนหนึ่ง ใด้มาหาท่านที่วัดตอนค่ำและคุยธุระกับท่านจนดึก วั้นนั้นใด้มีคนที่เป็นคู่อริ มาดักฆ่า หลังจากที่แกเดินทางกลับบ้าน ซึ้งที่ที่เขาดักรอแกกับที่แกเดินอยุ่ห่างกันตั้งกิโล แต่ด้วยอานุภาพของตะกรุดบันดาลให้คนที่ดักฆ่าเห็นแกเดินมา แต่ที่จริงยังเดินมายังใม่ถึง คนนั้นเมือเห็นว่าแกมาถึงแล้วก็กระหน่ำฟันด้วยดาบอย่างใม่ยั้งมือ ฟันไปฟันมาก็โดนแต่อากาศ ฟันใม่เข้าสักที แกตกใจมากนึกว่าผีหลอกแล้วก็วิ่งหนีไป หลังจากวันนั้นมาคนที่ดักฆ่าใด้เล่าให้เพื่อนสนิทฟังว่าฟัน ยังไงก้โดนแต่อากาศ สงสัยจะเป็นผีหลอกแกเลยหนีกลับ

เรื่องที่ 4 นายเบือนมีอาชีพขายใก่และเชือดใก่ขายใด้บูชาตะกรุดไปติดตัวเพื่อไว้ป้องกัน ตัวหลังจากที่ใด้บูชาตะกรุดหลังจากนั้น2วันใด้มีคนจ้างแกไปฆ่าไก่แต่แปลกมาก ที่ไก่ที่แกเชือดแล้วโยนลงไปในน้ำร้อน..ใด้บินออกจากกะทะน้ำร้อนเดือดๆๆซึ้ง ใม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนตกลงต่อหน้าแกสร้างความตกใจให้แกมากด้วยใม่เคยเจอ เหตุการณ์แบบนี้แกจึงลาเจ้าของบ้านกลับโดยขี่รถเครื่องกลับบ้านทางที่แกผ่าน ชาวบ้านใด้นำลวดมาขึงอยางตึงเพื่อใช้เป็นที่ตากผ้าซึ้งแกก็ใม่ใด้เห็น และบิดคันเร่งอย่างแรงเพื่อจะกลับบ้าน คอแกไปตรงกับลวดพอดี แกตกใจมาก แต่ขณะนั้นเหมือนมีมือยักมาผลักต้วแกออกจากลวดทำให้คอแกเป้นแค่รอยแดงๆๆแค่ นิดเดียวเหมือนยุงกัด แกรุ้สิกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จึงเลิกฆ่าใก่โดยเด็ดขาด

เรื่องที่5 มีลูกศิษย์ที่ศรีสะเกษใด้บูชาตะกุด บ้านของเขาอยู่ติดกับชายแดนเขมรซึ้งที่เขาพนมดงรักนั้นมีระเบิดเยอะมากสมัย สงครามเขมรแดงซึ้งทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ เขามีอาช๊พหาของป่าขาย วัน1ฝนตกเขาใด้ขึ้นเขาไปเก็บหน่อไผ่บนเขา ขาลงทางลื่นทำให้ขาของเขาไปเหยียบหลุมระเบิดอย่างแรงมีระเบิดประมาณ3ลูก เขาตกใจแทบชอกทำอะใรใม่ถุกในใจนึกถึงหลวงปู่ แต่ระเบิดใม่ใด้ระเบิดเขาค่อยยกขาออกอย่างช้าๆๆ แล้วก้เดินทางกลับบ้าน